ช็อคทั้งอินเดีย โรงพยาบาลหลายแห่งถ่ายเลือดที่มีเชื้อ HIV ให้ผู้ป่วยกว่า 2,234 คน!!

นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศอินเดียเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ Usnews ได้รายงานว่า องค์กรควบคุมโรคเอดส์นานาชาติที่เป็นส่วนหนึ่งของกรมอนามัยและสวัสดิการครอบครัวของอินเดีย

ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าตลอดระยะเวลา 17 เดือนที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อ HIV กว่า 2,234 คน จากการถ่ายเลือดของพวกเขา โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

 

1

 

สาเหตุที่มีการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวก็เพราะว่ามีนักเคลื่อนไหวที่ชื่อว่า เชตาน โคธารี ได้ยื่นหนังสือกับองค์กรควบคุมโรคฯ เพื่อขอรับรู้ข้อมูลที่แท้จริง

ทั้งนี้ตามรายงานระบุว่าผู้ติดเชื้อ HIV ส่วนใหญ่อยู่ทางเหนือของประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 361 คน อยู่ในรัฐคุชราต 292 คน รัฐมหาราษฎระ 276 คน และอยู่ในกรุงนิวเดลีอีก 264 คน แต่นาย นายโคธารี เชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยนี้อาจยังไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง และคิดว่าอาจจะมากกว่านี้อีก 2-3 เท่า

 

2

 

ทางด้านนายนาเรช โกยาล รองผู้อำนวยการทั่วไปขององค์การควบคุมโรคเอดส์แห่งชาติ ได้อธิบายถึงสาเหตุที่เลือดบริจาคกลายเป็นเลือดติดเชื้อ HIV ก็เพราะว่าไวรัสต้องใช้เวลาประมาณ 10 วันในการแสดงผล หลังจากที่ติดเชื้อระยะแรก

ทำให้ในตอนแรกที่มีผู้มาบริจาคเลือดทางทีมงานที่รับบริจาคเลือดไม่สามารถตรวจเจอเชื้อ HIV

 

3

 

การถ่ายเลือดครั้งนี้จะเกิดจากการถ่ายเลือดให้ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียเลือดมากหรือใช้เลือดในระหว่างการผ่าตัดต่างๆ ซึ่งกว่า 84% ของเลือดทั้งหมด ได้รับมาจากการบริจาค

ประเทศอินเดียถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศที่ 3 ที่มีคนติดเชื้อ HIV มาที่สุดในโลก โดยจำนวนผู้ป่วยอยู่ที่ประมาณ 2,100,000 คน

 

น่าสงสารชาวอินเดียมากเลยนะเนี๊ยะ

อยู่ดีๆ ก็ต้องมาติดเชื้อ HIV ทั้งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

emo5

ที่มา usnews , laht

Comments

Leave a Reply