นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง โลกเราไม่ได้เจอสงครามขนาดใหญ่ๆ อีกเลย แต่รู้หรือไม่หลังจากสงครามโลกแล้ว มีความขัดแย้งเกิดขึ้นทั่วโลก แม้จะไม่ใช่สงครามขนาดใหญ่ แต่ก็รุนแรงพอที่จะคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก
อย่างเช่นเรื่องราวของ “สงครามหกวัน” สงครามระหว่าง “ชาวยิว” กับ “ชาวอาหรับ” ที่ทำให้เหล่าชาติอาหรับ ขายหน้าที่สุดครั้งหนึ่งในโลก จะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย
จุดเริ่มต้นของสงครามเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1948 เมื่ออิสราเอลประกาศตั้งประเทศของตนเองในเขตปาเลสไตน์ และชักชวนให้ชาวยิวทั่วโลกมาอาศัยอยู่ ซึ่งการตั้งประเทศครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาติอาหรับแถบนั้นเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาถือว่าอิสราเอลมาแย่งดินแดนของพวกเขาไป ขณะที่ชาวอิสราเอลก็บอกว่าพื้นที่แถวนั้นเป็นที่ที่พระเจ้ามอบให้ตนตั้งแต่ครั้งอดีตกาลแล้ว
หลังจากนั้นอิสราเอลก็มีความขัดแย้งกับประเทศอาหรับที่รายล้อมอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นซีเรีย อิรัก จอร์แดน และอียิปต์ (เรียกว่าไปตั้งกลางดงบาทาของฝ่ายตรงข้ามเลยทีเดียว) ตั้งแต่เรื่องดินแดนไปจนการแย่งแหล่งน้ำ
จนวันหนึ่งในปี ค.ศ. 1967 ซีเรียที่รวมหัวกับอียิปต์ ก่อตั้ง PLO หรือ องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ได้เปิดฉากยิงใส่นิคมชาวยิวในที่ราบสูงโกลัน ทางฝ่ายอิสราเอลก็ไม่ได้นิ่งเฉย ตอบโต้กลับไปทั้งทางบกและอากาศ
อย่างไรก็ตามอิสราเอลยังไม่ได้เปิดศึกอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด จนกระทั่งอียิปต์ประกาศปิดช่องแคบตีราน และไม่ยอมให้เรือสินค้าของอิสราเอลผ่าน ทำให้รัฐบาลอิสราเอลประกาศสงครามกับอียิปต์ในทันที
แม้ตอนนั้นอียิปต์มีชาติอาหรับมาร่วมเป็นพันธมิตรมากมายที่ส่งเครื่องบินและกำลังรบมารอช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นซีเรีย จอร์แดน อิรัก คูเวต แอลจีเรีย ซาอุดิอารเบีย (ชาติอาหรับระดับเบิ้มทั้งนั้น)
แต่อิสราเอลหาได้กลัวไม่ พวกเขาใช้แผนการรบอันเฉียบขาด ตัดกำลังทางอากาศของอียิปต์ทิ้งตั้งแต่วันแรก ด้วยการทำลายเครื่องบินเกือบ 90% ของอียิปต์ทิ้งทั้งหมด
จากนั้นอิสราเอลก็ค่อยๆ กรีฑาทัพเข้าโจมตีอียิปต์ จอร์แดน และซีเรียตามลำดับ โดยในสงครามวันที่สาม ชาติแรกที่พ่ายแพ้คือจอร์แดน เนื่องจากไม่มีกองทัพเหลือต่อสู้อีกแล้ว และในวันต่อมาอียิปต์ก็ประกาศยอมแพ้ หลังกองทัพอิสราเอลเข้าประชิดกรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์
หลังจากอียิปต์ยอมแพ้ อิสราเอลยังคงเดินหน้าบุกซีเรียต่อ เพื่อยึดดินแดนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณที่ซีเรียใช้เป็นฐานยิงปืนใหญ่โจมตีอิสราเอล จนสงครามผ่านไปได้หกวัน อิสราเอลก็ประกาศหยุดยิง
ผลของสงครามครั้งนี้ อียิปต์ จอร์แดน ซีเรีย และอิรักต้องสูญเสียกองทัพอากาศไปแทบทั้งหมด ทหารจอร์แดนเสียชีวิต 6,000 นาย ทหารอียิปต์เสียชีวิตราว 15,000 นาย ขณะที่ทหารอิสราเอลเสียชีวิตไป 700 นายเท่านั้น และอิสราเอลก็ได้ดินแดนอีกประมาณ 4 เท่าจากที่เคยมีอยู่
สาเหตุที่อิสราเอลสามารถเอาชนะได้แม้จะเป็นรองอยู่มาก ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ โมเช่ ดายัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลขณะนั้น ที่วางแผนได้อย่างเฉียบขาดในการรบ
และอีกส่วนหนึ่งต้องยกให้กับเหล่า “สายลับ” ที่ถูกส่งเข้าไปยังประเทศคู่ขัดแย้งทั้งหลาย ที่สามารถล้วงความลับและแผนการของฝ่ายตรงข้ามมาได้ทุกครั้ง จนอิสราเอลสามารถหาทางแก้ลำได้หมด
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อิสราเองได้รับชัยชนะ นั่นก็คือความมุ่งมั่นนั่นเอง ลองนึกภาพประเทศที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่ถึง 20 ปี กำลังจะทำสงครามกับประเทศใหญ่ๆ รอบๆ หากพวกเขาแพ้ แปลว่าพวกเขาอาจถูกลบออกไปแผนที่โลกตลอกกาล
เมื่อหลังชนฝาเช่นนี้ พวกเขาจึงเทหมดหน้าตัก ว่ากันว่าในช่วงนั้น นักบินรบของอิสราเอลต้องบินกันคนละ 4-8 รอบต่อวัน ผิดกับทางชาติอาหรับ นักบินบินกันวันละ 1 รอบเท่านั้น นอกจากนี้ประชาชนในชาติก็เตรียมพร้อมรับสงครามที่จะเกิดขึ้น ด้วยการทำหลุมหลบภัย รวมทั้งขุดสนามเพลาะทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตามหลังจากสงครามครั้งนี้ อิยิปต์ก็ได้รับบทเรียนครั้งสำคัญ เพราะสาเหตุที่พวกเขาแพ้ เกิดจากกองทัพที่วินัยหย่อนยาน และการสื่อสารที่ผิดพลาด พวกเขาจึงเร่งปรับปรุงกองทัพของตนเองและพวกเขาก็ได้ประกาศศักดาอีกครั้งในสงครามยมคิปปูร์นั่นเอง
(เรื่องสงครามยมคิปปูร์ถ้ามีคนอยากอ่านเยอะ เดี๋ยวจะนำมาเรียบเรียบให้อ่านนะจ๊ะ)
ที่มา Wikipedia
เรียบเรียง #เหมียวอ๊อดโด้
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.