ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงสะเทือนใจกับข่าวที่ลิงฮารัมเบ ที่ถูกวิสามัญหลังมีเด็กคนหนึ่งตกลงไปในกรงของมัน จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
แต่รู้หรือไม่ เมื่อช่วงปีก่อนก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ เกิดขึ้นที่สวนสัตว์ Menominee Park ในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา จนต้องสังเวยชีวิตหมาป่าบริสุทธิ์ไปหนึ่งตัว
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ มีพนักงานคนหนึ่งลืมปิดประตูทางเข้าเขตหวงห้ามไว้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง สามารถเข้าไปยังพื้นที่จำกัดของพนักงานได้
และขณะที่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่กำลังง่วนอยู่กับการถ่ายภาพสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ลูกชายวัย 4 ขวบของเธอก็เดินเข้าไปใกล้รั้วกั้นระหว่างกรงหมาป่า เจ้า Rebel หมาป่าวัย 12 ปีที่อาศัยอยู่ที่นั่น ก็เดินมาหาเด็กคนดังกล่าวด้วยความสงสัย และกัดที่มือของเด็ก
ผลคือมือของเด็กเกิดรอยเขี้ยวเล็กๆ ซึ่งดูแล้วไม่หนักหนามาก เพียงทำแผลนิดหน่อยก็น่าจะหายในเวลาไม่นาน
แต่เมื่อกระทรวงสาธารณะสุขของรัฐวินคอซินเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างก็เลวร้ายลง พวกเขากังวลว่าวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่เคยฉีดให้กับเจ้า Rebel อาจไม่ออกฤทธิ์กับหมาป่า เพราะไม่เคยมีการทดลองอย่างจริงจังมาก่อน
Spencer Wilhelm จากศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมาป่ากล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่เคยมีการทดลองกับหมาป่า เพราะไม่มีใครอยากฆ่าหมาป่าที่มีจำนวนน้อยเหล่านี้เพื่อทดลองวัคซีนดังกล่าว แต่นักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อว่า วัคซีนพิษสุนัขบ้า ก็น่าจะได้ผลกับหมาป่าเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแล้ว ทางกระทรวงสาธารณะสุขให้โอกาสครอบครัวของเด็กที่ถูกกัดตัดสินใจว่า จะทำอย่างไร ระหว่าง
1. ฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้าให้กับเด็ก หรือ 2. จะฆ่า Rebel เพื่อนำร่างของมันไปทดสอบ
สุดท้ายพวกเขาเลือกทางเลือกที่สอง เจ้า Rebel จึงถูกฆ่าและนำไปทดสอบ ผลคือ วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าที่เคยฉีด ได้ผล…
เมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์มากมายอย่างเช่น “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเหล่าสัตว์ป่าต้องมารับกรรมจากการกระทำโง่ๆ ของมนุษย์ด้วย” หรือ “พ่อแม่น่าจะโดนลงโทษด้วย เพราะพาลูกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามตั้งแต่ทีแรก”
เฮ้อ เรื่องราวแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง แล้วอีกกี่ชีวิตที่ต้องสังเวยไป #เหมียวอ๊อดโด้ ก็ได้แต่หวังว่า จากนี้ไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะฮะ เราสูญเสียกันมาเยอะมากแล้วจริงๆ
ที่มา The Dodo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.