ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการดำรงชีวิตของเหล่าผู้คนในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และนี่เองที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็หลงใหลในความงดงามของประเทศนี้
และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความเชื่อของชายญี่ปุ่นที่ออกจะดูน่ากลัวไปซักหน่อยนึง สำหรับใครใจไม่ถึงก็ขอแนะนำให้สูดหายใจลึกๆ ก่อนที่จะเลื่อนลงไปอ่านกันนะจ๊ะ
โดยในงานเทศกาลต่างๆ ของชาวญี่ปุ่นที่นอกจากจะมีการขายของจากร้านค้าต่างๆ แล้ว ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือขบวนแห่ที่เป็นหัวใจสำคัญของงาน
และขบวนแห่เหล่านี้ก็จะมีศาลเจ้าจำลองหรือที่เรียกว่า ‘มิโคชิ’ มาร่วมในขบวนแห่ด้วย โดยเชื่อว่าภายในนั้นมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ และผู้ที่รับหน้าที่ในการแบกศาลเจ้าแห่นี้ก็คือหนุ่มๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้นนั่นแหละ
โดยศาลเจ้าจำลองนี้มีน้ำหนักกว่า 1 ตันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการสร้างสีสันให้กับงานเทศกาลและขบวนแห่ได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าเพื่อนๆ สังเกตดูที่บริเวณไหล่ของเหล่าผู้ชายที่ทำหน้าที่แบกศาลเจ้าจำลอง หรือ ‘มิโคชิ’ กันดูดีๆ แล้วจะพบว่ามันมีก้อนเนื้อแปลกๆ ที่ดูคล้ายกับเนื้องอกปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งเจ้าก้อนกลมๆ นี้ชาวญี่ปุ่นเค้าเรียกกันว่า ‘มิโคชิ ดาโกะ’ เป็นก้อนเนื้อที่เกิดจากการแบกของหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดการอักเสบและปูดบวมเป็นก้อนเนื้อขึ้นมาบริเวณบ่า
ถึงแม้ว่ามันจะดูผิดปกติและน่ากลัว แต่ชายชาวญี่ปุ่นหลายคนก็ยินดีที่จะมีเจ้า มิโคชิ ดาโกะ นี้อยู่บนร่างกาย เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความอดทน มุ่งมั่น ที่พวกเขาทุ่มเทให้กับการฝึกฝนแบกมิโคชิ หรือศาลเจ้าจำลอง
นอกจากนี้ยังเป็นหลักฐานที่แสดงว่าตัวเขานั้นคือผู้รับใช้เทพเจ้าที่พวกเขานับถือ รวมไปถึงแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนเอาการเอางาน ขยันทำงานโดยไม่ลดละอีกด้วย
ซึ่งในระยะแรกเจ้า มิโคชิ ดาโกะ หรือเจ้าก้อนเนื้อนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าก้อนเนื้อนี้จะด้านและกลายเป็นเหมือนหมอนที่คอยช่วยรองรับน้ำหนักให้รู้สึกเจ็บปวดน้อยลงขณะที่ทำการแบกศาลเจ้าแห่ไปรอบๆ
และไม่ได้มีแค่ที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีความเชื่อแบบนี้ ในประเทศอิตาลีเองก็มีเทศกาลแห่เสาศักดิ์สิทธิ์ยักษ์ ที่เรียกว่า La Festa dei Gigli ที่มีน้ำหนักกว่า 2.5 ตัน
ซึ่งก็ทำให้เหล่าชายอิตาลีทั้งหลายเองก็มีก้อนเนื้อปูดออกมาในลักษณะนี้เช่นกัน พวกเขาเรียกมันว่า Cullatori of Nola
แหม่ เห็นแล้วมันก็ดูน่ากลัวซะจริงเชียว แต่จริงๆ แล้วมันก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อ และประเพณีอันงดงามที่สืบต่อกันมาของต่างประเทศที่ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แถมยังสื่อให้เห็นถึงความมุมานะพยายามของคนอีกด้วยนะเนี่ย สุดยอดจริงๆ
ที่มา : rocketnews24
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.