สุดเจ๋ง!! ดีไซน์เนอร์ตกแต่งบ้านสไตล์ยุค 60s สวยน่าอยู่ไปอีกแบบเลย…

ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 60 ต้องขอบอกเลยว่ายุคนั้นนี่เป็นยุคที่เรียกได้ว่า ‘Dark Age’ เลยทีเดียว เพราะอยู่ในช่วงสงคราม ความรุนแรง การจราจล การเหยียดผิว และการต่อต้านแนวคิด Feminism จึงอาจทำให้เพื่อนๆ หลายคนคิดว่ายุคสมัยนั้นเป็นช่วงที่น่ากลัวสุดๆ

แต่ขอบอกไว้เลยว่าจริงๆ แล้วยุคนั้นยังมีอะไรเจ๋งๆ อีกมากมาย ทั้งวิถีชีวิต แฟชั่น ดนตรี ฯลฯ และที่สำคัญก็คือเรื่องแฟชั่นนี่แหละ ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงเลย และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมการตกแต่งบ้านสุดเจ๋งหลังนี้

 

Miles McDermott ชายหนุ่มจาก Arizona ปิ๊งไอเดียสุดเจ๋ง ตกแต่งบ้านของตัวเองให้เหมือนกับว่าย้อนกลบไปอยู่ในช่วงยุค 60

1

 

เขาตั้งชื่อโปรเจคว่า Save the Sixties แทนที่เขาจะทำการซื้อบ้านหลังเก่าๆ แล้วจัดการเริ่มต้นโปรเจค แต่เขาเลือกที่จะใช้บ้านของตัวเองแทน

2

 

ซึ่งพี่ McDermott ของเรานี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาๆ นะ เพราะเขาเคยได้รับรางวัลชนะเลิศเกี่ยวกับการออกแบบในเมือง Phoenix มาแล้ว

3

 

เขาต้องการที่จะ อนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่ รูปแบบการตกแต่งบ้านในยุค 60 ที่แสนงดงาม เพื่อไม่ให้สไตล์ที่ดูเป็นเอกลักษณ์นี้ถูกกลืนหายไปเพราะการตกแต่งบ้านสมัยใหม่

4

 

ซึ่งพี่ McDermott แกก็ทำออกมาได้ดูดีสุดๆ เลยทีเดียว ราวกับว่าได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไปชมบ้านในยุค 60 ยังไงยังงั้นเลยทีเดียวล่ะ

5

 

เพราะเขาไม่ได้เพียงแค่นำสไตล์รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังลงรายละเอียดเล็กๆ ยิบย่อยมากมาย หลายประการอีกด้วย

6

 

อย่างเช่นเจ้าอุปกรณ์เปิดขวดไวน์พวกนี้…

7

 

เขามีไอเดียว่าจะเปิดบ้านที่เขาทำการตกแต่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้ทุกคนได้เสพบรรยากาศของยุค 60 แบบเต็มๆ

8

 

นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปร่วมบริจาคให้กับเขาได้ด้วย และเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เขาได้รับบริจาคนั้น จะถูกนำไปใช้ในการตกแต่งบ้านยุค 60 นี้ทั้งหมดเลย

9

 

และแน่นอนว่าที่นี่จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียวล่ะ ^^

10

 

แหม่ ต้องขอบอกไว้เลยว่าเป็นไสตล์การตกแต่งบ้านที่ชิคๆ เก๋ๆ เอาซะมากๆ เลยล่ะ นี่ขนาดแค่การตกแต่งบ้านนะ แล้วชีวิตประจำวันของคนในยุคนั้นจะคูลขนาดไหนนี่ไม่ต้องคิดถึงเลย ฮร่า

หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากเข้าไปร่วมบริจาคหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก็เข้าไปดูที่ เว็บไซต์ นี้ได้เลยนะจ๊ะ ^^

emo12

ที่มา : lifebuzz, savethesixties

Comments

Leave a Reply