มารยาท 13 ข้อ ที่ทุกคนควรรู้เอาไว้ เมื่อคิดจะไปเที่ยวต่างประเทศ…!!!

จะไปเที่ยวต่างประเทศกันทั้งทีบางทีมันก็มีเรื่องให้น่าเป็นห่วงบ้าง ทั้งภาษาที่แตกต่างกัน อาหารการกินก็ไม่เหมือนกัน และที่สำคัญจะไปเที่ยวให้สนุกก็ต้องมีการสื่อสารกับคนท้องถิ่นบ้าง แต่บางเรื่องที่สามารถทำได้สบายๆในบ้านเราอาจจะทำไม่ได้ในบางที่นะจ๊ะ

 

1. ศาสนาและแอลกอฮอล์

ปกติแล้วในกลุ่มประเทศศาสนาอิสลามนั้น แอลกอฮอล์ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฏและห้ามดื่มในที่สาธารณะเพราะฉะนั้นเวลาที่ไปเที่ยวเราควรระวังเรื่องนี้ไว้ให้มาก อาหารประเภท เนื้อหมู ก็เช่นกัน เรียกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามนะจ๊ะ

 

2. ดูได้แต่ห้ามจับ

การจูบกันในที่สาธารณะหรือการมีกิ๊กถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดอย่างร้ายแรงในแถบตะวันออกกลาง ถ้าไปเที่ยวบ้านเค้าแล้วเราก็ควรระมัดระวังไม่ทำผิดกฏจะดีกว่า ถ้าไปกับแฟนอาจจะไม่กล้าหวานออกสื่อเลยทีเดียวเพราะที่ดูไบมีคู่รักที่โชว์หวานกันริมชายหาดถูกตัดสินให้จำคุกถึง 6 ปี!!!! เลยนะ

 

3. นิ้วโป้งเจ้าปัญหา

ทางที่ดีเราควรศึกษาให้ดีก่อนไปเที่ยวเพราะต่างประเทศกันสัญลักษณ์การชูนิ้วโป่งที่บ่งบอกว่าเยี่ยมมากในแบบบ้านเราก็อาจจะมีความหมายที่ต่างกัน ในยุโรปและสหรัฐฯ การชูนิ้วโป่งมีความหมายแบบเดียวกับบ้านเรา แต่ในอิหร่านกลับหมายถึงการดูถูกซะงั้น แบบนี้จะเอาไปใช้ที่ไหนก็ต้องระวังกันบ้างละน้าาา

 

4. เล่นหัว

ใช่แล้ว เล่นหัวเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราจะเอาไปเล่นมั่วๆไม่ได้นะเออ ถึงแม้ว่าในยุโรปการแกล้งตบหัวเด็ก(แบบเบาๆนะ555)อาจจะมีความหมายเชิงเป็นมิตรต่อกันแต่ในประเทศที่นับถือความอาวุโสอย่างเช่นบ้านเรามันหมายถึงการไม่เคารพซึ่งกันและกันเพราะฉะนั้นเล่นให้ถูกคนล่ะ

 

5. สัญลักษณ์มือ

การชี้นิ้วไปตรงๆในประเทศอเมริกาและยุโรปมีความหมายถึงการชี้ไปที่สิ่งของนั้นๆ ในมาเลเซียการใช้มือชี้ไปทั้งมือเป็นการบอกถึงเส้นทาง แต่ในฟิลิปปินส์จะชี้สิ่งของด้วยการขยับตาและใช้ปากชี้ แถมในบางที่การชี้ไปที่คนยังถือเป็นเรื่องไร้มารยาทอีกด้วยนะ ก็ต้องระวังกันให้ดีล่ะ

 

6. เรื่องต้องห้าม

แต่ละประเทศก็มีเรื่องของการเรียกชื่อหรือเรียกคนท้องถิ่นนั่นๆทั้งแบบสุภาพและหยาบคาย เราไปเที่ยวก็ควรจะเลือกใช้คำแบบสุภาพอยู่แล้วเนาะ อย่างเช่น คนแอฟริกัน-อเมริกัน ไม่ชอบให้ใครมาเหยียดสีผิวพวกเขา หรือว่าไม่ควรคุยเรื่องทิเบตกับคนจีน เป็นต้น

 

7. การแต่งกาย

หลายๆประเทศก็มักจะเสรีเรื่องการแต่งตัวของผู้หญิงอยู่แล้วแต่ในบางที่กลับเข้มงวดเอามากๆ อย่างเช่นกลุ่มประเทศมุสลิม ที่การใส่เสื้อเอวลอยกางเกงขาสั้นโชว์สรีระเป็นเรื่องที่ผิดอย่างร้ายแรงของสาวๆที่นั่น จะไปที่ไหนก็ควรดูกาละเทศะด้วยเนาะกันไว้ย่อมดีกว่าแก้

 

8. ในญี่ปุ่นห้ามใส่รองเท้าเหยียบเข้าวิหารวัดหรือบ้าน

ไม่ใช่แค่เฉพาะญี่ปุ่นแต่มีอีกหลายๆประเทศรวมทั้งบ้านเราด้วยที่ถือว่าการใส่รองเท้าเข้าไปในวิหารของวัดหรือบ้านเป็นเรื่องที่เสียมารยาท จะเข้าออกที่ไหนก็อย่าลืมสังเกตุกันก่อนดีๆนะ

 

9. ระวังเรื่องสีของดอกไม้

การให้ดอกไม้เป็นการแสดงถึงความจริงใจอย่างหนึ่ง แต่ในหลายๆประเทศ สีต่างๆก็มีความหมายแตกต่างกันออกไปเช่น ในเยอรมัน โปแลนด์ หรือสวีเดน ใช้ดอกคาร์เนชั่นสำหรับงานศพเท่านั้น หรือ กุหลาบสีแดงที่หมายถึงความโรแมนติคในฝรั่งเศส แต่ในเม็กซิโก กุหลาบเรื่องกลับหมายถึงความเศร้าโศกและการแยกทาง จะให้ดอกไม้คนประเทศไหนก็ต้องดูกันดีๆละทีนี้

 

10. ดื่มเหล้าให้ถูกหลัก

พูดถึงเรื่องวัฒนธรรมการดื่มของมึนเมานี่ก็แตกต่างออกไปทั่วโลกจริงๆ ในเยอรมันหรือแถบสแกนดิเนเวียเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมองตาเพื่อนเวลาชนแก้ว หรือในรัสเซีย ที่ต้องดื่มวอดก้าให้หมดภายในอึกเดียว แบบนี้ถ้าเจอเพื่อนหลายประเทศได้กินหลายแบบกว่าจะทำความรู้จักกันหมดคงมีเมาหมดสติกันบ้างล่ะ

 

11. มารยาทการใช้ตะเกียบ

ในประเทศแถบเอเชียเองก็มีเรื่องของมารยาทการใช้ตะเกียบเหมือนกันนะอย่างเช่น ไม่ควรจะวางตะเกียบไขว้กัน ชี้ไปที่คนอื่น หรือวางมันไว้ด้านตรงข้ามกับจาน เห็นแค่การกินเรียบๆแบบนี้ก็มีเรื่องราววัฒนธรรมของมันเหมือนกันนะเนี่ย

 

12. ระวังการนั่งไขว่ห้าง

หลายๆประเทศเช่น สิงคโปร์ อียิปต์ รวมถึงไทย ถือว่าการนั่งไขว่ห้างและชี้เท้าไปทางอื่นถือเป็นเรื่องที่เสียมารยาทจะไปนั่งที่ไหนก็อาจจะต้องสำรวมกันนิดนึงนะจ๊ะ

 

13. พยักหน้าหมายความว่า “ไม่”

เป็นเรื่องขำๆน่ารักๆที่มีการใช้การพยักหน้าตรงข้ามกันของแต่ละประเทศ หลายๆที่ถ้าเราพยักหน้าก็จะหมายถึงคำตอบว่า ใช่ แต่ในบางทีเช่น อินเดีย หรือ บัลแกเรีย ที่สลับตรงข้ามกันแบบนี้มีงงกันแน่นอน

 

ต่างประเทศต่างถิ่นก็ย่อมมีวัฒนธรรมที่ต่างกันแหละเนาะ บางที่ก็อาจจะเคร่งมากเคร่งน้อยแตกต่างกันไปแต่ #เหมียวบ็อบ ว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีนะถ้าเราจะเรียนรู้วัฒนธรรมของที่ๆเราจะไปและลองทำตัวกลมกลืนดู อาจจะรู้สึกแปลกๆบ้างแต่ก็เหมือนได้ทำอะไรใหม่ๆยังไงล่ะ

ที่มา thetravelmagazine