เปิดตำนาน “Bliss” ภาพวอลเปเปอร์ Window XP ที่คนยุค 2000 คุ้นเคยกันมากที่สุด

สำหรับคนยุค 2000 แล้ว ภาพหนึ่งที่คนยุคนี้เห็นกันจนคุ้นตาเป็นอย่างดี ก็คือภาพวอลเปเปอร์ทุ่งหญ้าเขียวขจีของระบบปฏิบัติการ Window XP นั่นเอง ซึ่งในปี ค.ศ. 2016 ก็เป็นการครบรอบ 20 ปีของภาพใบนี้

วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะขออาสาพาเพื่อนๆ ย้อนเวลากลับไปชมเรื่องราวอันน่าทึ่งของภาพใบนี้ ที่จากภาพธรรมดาๆ ที่ถ่ายด้วยความบังเอิญ จนกลายเป็นภาพที่ว่ากันว่า มีคนเคยเห็นมากที่สุดในโลก เราไปชมพร้อมๆ กันเลย!!

เรื่องราวกเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1996 เมื่ออดีตช่างภาพของนิตยสาร National Geographic นามว่า Charles O’Rear กำลังเดินทางจากบ้านของเขาในแคลิฟอเนีย ไปยังบ้านของแฟนสาวที่อยู่ในทางตอนเหนือของซานฟรานซิสโก

เขาเล่าว่าวันนั้นเขารู้สึกอยากถ่ายรูปมาก และเขาเชื่อลึกๆ ว่า วันนั้นเขาต้องเก็บภาพดีๆ ได้อย่างแน่นอน ระหว่างที่เขากำลังขับรถอยู่ เขาสังเกตเห็นเนินเตี้ยๆ แห่งหนึ่ง มีไร่องุ่นขึ้นปกคลุมจนเขียวไปหมด

เขารู้ในทันทีว่า ที่นี่คือที่ที่เขาตามหา เขาจึงหยิบกล้อง Mamiya RZ67 แบบ Medium Forat พร้อมกับฟิล์ม Velvia ของ Fujifilm ออกมา แล้วถ่ายภาพเนินนั้น

ผลที่ออกมาคือภาพ Bliss ที่เราเห็นกันนั่นเอง ซึ่งเขาบอกว่าภาพที่เขาถ่ายนั้น ไม่มีการตกแต่งภายหลังใดๆ ทั้งสิ้น ต่อมาเขาได้นำภาพไปฝากไว้กับ Corbis บริษัทสต็อกโฟโต้ที่ก่อตั้งโดย Bill Gates เจ้าพ่อแห่ง Microsoft นั่นเอง

(ภาพเนินที่เขาเคยถ่ายในปัจจุบัน)

จนในปี 2000 ทางทีมพัฒนา Window XP ได้ติดต่อไปยัง Charles เพื่อขอซื้อภาพนี้ไปใช้เป็นภาพวอลเปเปอร์ของ Window XP ซึ่งเป็นจำนวนเงินถึงหลักหลายแสนดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว (อาจถึงสิบล้านบาท) และนั่นคือจุดเริ่มต้นของภาพที่มีคนเคยเห็นกว่าพันล้านคนทั่วโลก

ทุกวันนี้ Charles ยังเก็บภาพ Bliss ฉบับคัดลอกเล็กๆ เอาไว้บนพนังบ้านของตนเอง เขาบอกว่า เขาไม่ได้เป็นคน “สร้าง” ภาพนี้ขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาอยู่แล้ว เขาแค่บังเอิญไปอยู่ในจุดๆ นั้นแล้วถ่ายภาพกลับมาเท่านั้นเอง และเขายังดีใจมาก ที่ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนบนโลก เขาก็จะเห็นภาพของเขาอยู่บนคอมพิวเตอร์

แม้จะมีความพยายามจะถ่ายภาพนี้ขึ้นมาอีกหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครทำเสร็จ ซึ่งก็มีเพียงเวอร์ชั่น 2011 เท่านั้น ที่ใกล้เคียงที่สุด

(ภาพเวอร์ชั่น 2011)

ลองไปฟังบทสัมภาษณ์ของลุง Charles กันดีกว่า

บางครั้งความบังเอิญก็ทำให้เกิดเรื่องราวสุดยิ่งใหญ่จริงๆ ใครอยากลองดูภาพจริงๆ ของเนินนี้ผ่านทาง Google Street View ก็กดเข้าไปดูได้ในนี้เลยนะ (ลิ้ง) บอกเลยว่าเจ๋งฝุดๆๆ อิอิ

ที่มา Wikipedia