เราต่างทราบกันดีว่า โรคซึมเศร้า เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่อยู่คู่กับสังคมของเรา และหลายคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองมีอาการดังกล่าวอยู่ สุดท้ายมันก็อาจนำไปสู่เหตุการณ์เศร้าและความสูญเสียอย่างที่เห็นกันตามข่าวต่างๆ…
แต่การที่จะรักษาให้มันหาย หรือดีขึ้นได้นั้น สำหรับแต่ละคนก็ย่อมต้องมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ แต่เราอาจจะมีทางออกหนึ่งของการรักษาโรคนี้ในอนาคต หลังจากที่มีเกม Pokemon GO ออกมานั่นเอง
เกมดังกล่าวบังคับให้ผู้เล่นออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อจะจับโปเกม่อน ตามหาโปเกม่อนหายาก รวมถึงไปยังยิมเพื่อต่อสู้ฝึกฝน นั่นทำให้ต่างจากการเล่นเกมแบบเดิมๆ ที่เรามักจะติดภาพการนั่งอยู่ในห้องเพียงลำพัง
ทางเว็บไซต์ BuzzFeedNews ได้ไปสัมภาษณ์เด็กผู้ป่วยโรคซึมเศร้า (หลังจากพวกเขามาโพสต์เกี่ยวกับเรื่องเกมนี้ ว่ามันช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น) และนี่คือข้อมูลที่คนเหล่านั้นบอกมา…
Ari เป็นเด็กสาวอายุ 18 ที่อาศัยอยู่ในฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาพโพสต์คร่าวๆ ก่อนที่ให้สัมภาษณ์
เธอมีปัญหาเรื่องเข้าสังคมอย่างมากและหลีกเลี่ยงที่จะออกจากบ้านไปสู่โลกกภายนอกอยู่เสมอ ด้วยความที่เป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก แถมยังมีปัญหาเรื่องการถูกทำร้ายภายในบ้าน แน่นอนว่านั่นทำให้เธอหวาดกลัวต่อผู้คนและสังคมอย่างมาก…
‘แต่ตั้งแต่ที่ฉันได้รู้จักกับเกม Pokemon Go ฉันกลับพบว่าฉันมีแรงจูงใจที่จะออกไปข้างนอกบ้าน และที่สำคัญที่สุด ฉันรู้สึกสนุกไปกับมัน เมื่อวานฉันก็พึ่งไปห้างสรรพสินค้ามาที่ๆ ฉันไม่เคยอยากไปมาก่อน และฉันรู้สึกว่ามันดีสุดๆ ไปเลย’
‘หลักๆ แล้วฉันคิดว่าเพราะเกมนี้มีระบบที่เหมือนให้รางวัลกับคนที่ออกไปข้างนอก และเราสามารถคาดหวังถึงรางวัลนั้นได้ ไม่ใช่แค่ออกไปข้างนอกตามปกติและได้ประสบการณ์ที่เลวร้ายและแย่ๆ กลับมาแทน เหมือนเป็นการฝึกตัวเองให้รู้สึกดีเมื่อออกไปข้างนอกและพบปะผู้คนยังไงยังงั้น’ เธอกล่าวปิด
และอย่าง Brianna สาววัย 21 ปีผู้มีสองบุคลิก โรคซึมเศร้า และมีอาการหวาดกลัวสังคม ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอาการของเธอก็ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน
Brianna บอกว่า ‘ตั้งแต่ที่ฉันได้รู้จักกับเกม Pokemon Go มา ฉันเดินเล่นทั้งวันในเมือง แน่นอนว่าฉันไม่เคยคิดที่จะทำอะไรแบบนี้มาก่อน’
‘ปกติแล้วการเป็นโรคซึมเศร้านั้นคุณจะพบว่ามันยากมากๆ ที่จะหาเหตุผลดีๆ สักข้อเพื่อที่จะลุกขึ้นไปจากเตียงนอนหรือบ้านของตัวเอง ฉันมีอาการอย่างนี้มาตลอดจนกระทั่งที่ได้รู้จักกับเกมนี้ ฉันก็ไม่สามารถพูดได้หรอกว่าฉันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันหายแล้ว แต่สิ่งที่ฉันมั่นใจเลยก็คือเกมนี้ทำให้ฉันยุ่ง และมีแรงจูงใจที่จะออกไปข้างนอก’ เธอกล่าวต่อ
‘มากไปกว่านั้น Pokemon ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในวัยเด็กของฉัน การได้ทำตามความฝันในวัยเด็กในการเป็นเทรนเนอร์ จับโปเกมอนหรือฟักไข่พวกมันนั้น เป็นอะไรที่เยี่ยมสุดๆ ไปเลย’ เธอกล่าวปิด
แม้จะยังไม่มีผลวิจัยอย่างเป็นทางการ #ประธานเหมียว เชื่อมั่นมากว่าเกมนี้สามารถส่งผลทางบวกต่อคนที่มีปัญหาการเข้าสังคม การเก็บตัว หรือความรู้สึกเศร้าได้จริง และในอนาคตหลังจากเกมออกตัวเต็มมาแล้ว ต้องมีทีมนักวิทยาศาสตร์อยากจะศึกษาในเรื่องนี้อย่างแน่นอน (หวังว่าผลมันจะออกมาในทิศทางนี้เช่นกัน)
และอยากฝากไว้ว่าทุกอย่างมีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย อย่างที่เราเห็นการแอบดักปล้นคนมาจับโปเกม่อน หรือกระทั่งการเล่นจนไม่ดูทางจนเกือบถูกรถชน ยังไงซะก็ขอให้อยู่ในขอบเขตและคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อนทุกครั้งด้วยนะครับ…
ออกเดินทางไปจับโปเกม่อนกัน!!!
ที่มา: บทความของจ่าสิบเหมียว, buzzfeed
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.