อย่างที่ทราบกันดีว่า วิทยาการทางการแพทย์ของมนุษย์พัฒนาอย่างรวดเร็วที่ช่วงร้อยปีที่ผ่านมา (ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับค่ายกักกันในช่วยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งของเยอรมันและญี่ปุ่นเลยล่ะ) ทำให้วิธีการรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยต่างๆ นั้นถูกต้องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แต่รู้หรือไม่ ในอดีตเราเคยมีวิธีการรักษาโรคแบบแปลกๆ มากมาย ซึ่งหลายๆ วิธีนั้นต้องบอกว่าสยดสยองจนน่าขนลุกเลยทีเดียว อย่างเช่น 11 วิธีการรักษาโรคในอดีตที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ ลองไปชมกันเลย!!
1.เอาเลือดออก
ย้อนไปเมื่อซักร้อยปีก่อน มีหมอหลายคนเชื่อว่าอาการป่วยของมนุษย์เกิดจากของเหลวในร่างกายทำงานผิดปกติหรือเป็นพิษ พวกเขาจึงใช้วิธีการเจาะเอาเลือดเสียออก (รู้ได้ไงว่าอันไหนเลือดเสีย -*-) จนกระทั่งช่วงต้นศตวรรษที่ 20 พวกเขาถึงรู้ว่า การเอาเลือดออกจากร่างกายมีแต่ทำให้ผู้ป่วยอ่อนแอลง หรือไม่ก็เสียชีวิตเลยก็ได้ พวกเขาจึงเลิกรักษาด้วยวิธีนี้ไปแต่โดยดี
2. โคเคน
หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าโคเคน หรือ ผงขาว เคยใช้เป็นยาแก้ปวดมาก่อน จนตอนหลังแพทย์พบว่าผู้ป่วยมีอาการเสพติดยาแก้ปวดเหล่านั้น พวกเขาจึงแบนและเลิกใช้ไปในที่สุด
3. ดื่มฉี่ของตัวเอง
ในอดีต เคยมีความเชื่อว่าการดื่มฉี่ตัวเองหรือเอาฉี่มาทาตามร่างกายจะทำให้สุขภาพแข็งแรง ซึ่งปัจจุบันก็น่าจะรู้กันหมดแล้วว่ามันไม่จริง แต่ดูเหมือนว่าจะมีหลายคนยังเชื่อเรื่องนี้อยู่นะ
4. คลอโรฟอร์ม
คลอโรฟอร์มถูกคิดค้นขึ้นมาช่วงปี 1831 เพื่อใช้ในการผ่าตัดและการทำคลอด วิธีการง่ายๆ ที่หมอใช้ก็คือ เอาเครื่องที่หน้าตาคล้ายๆ เครื่องช่วยหายใจให้คนไข้สูด ซึ่งในนั้นจะบรรจุด้วยคลอโรฟอร์ม เมื่อคนไข้สูดคลอโรฟอร์มเข้าไปก็จะหมดสติในทันที
ทางทฤษฎีมันก็โอเคแหละ แต่ความจริงแพทย์แทบไม่สามารถกำหนดปริมาณคลอโรฟอร์มที่คนไข้สูดเข้าไปได้เลย จนบางคนสูบปุ๊บก็ช็อคตายตรงนั้นก็มี พวกเขาจึงเลิกใช้คลอโรฟอร์มไปในช่วงปี 1950 และหันมาใช้ไนตรัสออกไซด์ในการรมยาคนไข้แทน
5. เฮโรอีน
ในอดีต บริษัทยาชื่อดังจากเยอรมนี Bayer เคยใช้เฮโรอีนเป็นส่วนผสมของยาแก้ไอ หลังจากนั้นไม่นานมันก็ถูกใช้ในการรักษาระบบทางเดินหายใจทุกชนิด
แต่ตอนหลังกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดมอร์ฟีนได้ค้นพบว่า ยาแก้ไออันนี้ก็ใช้เป็นยาเสพติดได้เหมือนกัน หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาจึงเลิกขายยาชนิดนี้ทันที และถูกแบนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก
6. สารหนู
ประเทศจีนในอดีต สารหนูเคยถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคมากมาย รวมถึงผู้หญิงในยุควิคตอเรียก็ใช้สารหนูเป็นเครื่องสำอางเช่นกัน แต่ภายหลังก็เลิกใช้ไป เพราะสารหนูเป็นต้นกำเนิดของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเจริญเติบโตไม่ปกติ และอื่นๆ อีกมากมาย
7. อาเจียน
ในอดีตเคยมีความเชื่อว่า การอาเจียนจะช่วยขับถ่ายของเสียภายในร่างกายที่เป็นต้นเหตุของอาการเจ็บป่วยออกมา ซึ่งวิธีการก็ไม่ยาก แค่ให้คนไข้กินสารพิษหรือของเสียเข้าไปจะได้กระตุ้นให้ร่างกายอาเจียน
แน่นอนว่าการรักษาแบบนี้ไม่ถูกต้อง ส่วนใหญ่ผลที่เกิดขึ้นคือคนไข้อาการแย่ลงยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายก็ถูกยกเลิกไปในที่สุด
8. ปลิง
คล้ายกับการเอาเลือดออกในข้อแรก แต่เปลี่ยนจากเอามีดกรีดมาเป็นเอาปลิงดูดแทน บอกเลยว่าฮิตสุดๆ ในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในยุโรป แน่นอน มันก็ไม่ได้ผลเหมือนข้อแรกนั่นแหละ
9. ตัดลิ้น
ในช่วงยุคกลาง มีความเชื่อว่าการตัดลิ้นบางส่วนออกจะช่วยรักษาอาการติดอ่างรวมถึงอาการพูดไม่ชัดต่างๆ ได้ แน่นอนว่านั่นไม่จริงซักอย่างเลย พอถึงช่วงศตวรรษที่ 17 การตัดลิ้นก็หายไปจากสังคมโดยสิ้นเชิง
10. เปิดกะโหลก
การผ่าตัดเปิดกะโหลดหน้าผากเชื่อว่าจะช่วยรักษาอาการป่วยทางจิตหลายๆ อย่าง ในช่วงปี 1940 แต่การเปิดกะโหลกแบบนี้มักจะทำให้สมองคนไข้เสียหาย จนบางคนกลายเป็นเจ้าชายนิทราเลยทีเดียว ก็ต้องยกเลิกไปตามระเบียบ
11. กลืนปรอท
การใช้ปรอทรักษาโรค เริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ โดยวิธีการใช้งานมีตั้งแต่ทาผิวไปจนถึงการกลืนเข้าไป ที่ไม่น่าเชื่อคือในช่วงปี 1920 ร้านขายยาในสหรัฐอเมริกาก็ขายปรอทกันเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งถึงช่วงปี 1950 จึงได้เริ่มตระหนักถึงผลกระทบ และเลิกขายไปในที่สุด
น่าสยดสยองจริงๆ เลยแต่ละวิธี โชคดีสำหรับเราๆ แล้วล่ะที่เกิดมาในยุคนี้ แต่ไม่แน่ คนในอีกร้อยปีข้างหน้าอาจอึ้งกับสิ่งที่เราทำ เหมือนกับที่เราอึ้งคนเมื่อร้อยปีก่อนก็ได้นะ ฮาาา
ที่มา Viralnova
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.