นี่คือหนึ่งในแฟรนไชส์ที่#เหมียวฟิ้นชอบมากๆ (ชอบยิ่งกว่า Star Wars อีก) แม้จะเพิ่งมาติดตามเอาในภาครีบูทของ J.j. Abrams เมื่อปี 2009 แต่มันก็น่าประทับใจจนต้องยกขึ้นหิ้งให้เป็นหนังไซไฟแห่งชาติเลยล่ะ
และในภาค Star Trek Beyond ก็ถือเป็นภาคที่ 3 แล้วหลังจากการรีบูทจักรวาลครั้งนี้ มีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับจาก J.j. Abrams มาเป็น Justin Lin (ผู้ที่ปลุกชีพให้หนังแฟรนไชส์ Fast & Furious กลับมาโด่งดังอีกครั้งในภาค 3-6) เราลองมาดูกันว่าจะยังสนุกเหมือนเดิมหรือเปล่า?
หนังภาคนี้เล่าเรื่องราวอีก 966 วันต่อมา หลังจากเรื่องราวในภาค Star Trek Into Darkness ที่กัปตันเจมส์ ที เคิร์ก (Chris Pine) ได้นำลูกเรือยูเอสเอส เอ็นเตอร์ไพรส์ออกสำรวจอวกาศอันไร้ขอบเขต เพื่อตามหาอารยธรรมใหม่ๆ
วันหนึ่งพวกเขาได้รับภารกิจให้ออกไปตามหายานที่ขาดการติดต่อ แต่ในระหว่างนั้นพวกเขากลับถูกโจมตีโดยฝูงยานจะนวนมหาศาล พวกเขาถูกโจมตีด้วยสาเหตุใด และจะรอดไปได้หรือไม่ ต้องไปดูในโรงหนังเลยจ้า
ในภาค Beyond นั้นดูจะดึงเอาจุดเด่นหรือมุกแบบ 2 ภาคแรกมาใช้ เช่นมุกการซ่อนความลับบางอย่างเกี่ยวกับตัวละคร การหักมุมของเนื้อเรื่อง การติดกับดัก (แต่จะว่าไปในภาคออริจินอลก่อนๆ มันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว)
นี่คือหนังภาคที่ 3 แล้ว ช่วงระยะเวลาในจักรวาลหนังและโลกจริงๆ ก็เกือบจะเท่ากัน เราเลยจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครทุกตัว เราคงจะไม่ได้เห็นสป็อคมาทะเลาะกับกัปตันเคิร์กแล้ว พวกเขาจะเข้าใจกันมากขึ้น
ในหนังจะมีฉากที่ตัวละครต้องแยกออกไปจับคู่กันแบบที่เราไม่เคยเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันมาก่อน นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกดี
เพราะในภาคก่อนๆ เราไม่ค่อยเห็นพวกเขามีปฏิสัมพันธ์แบบ 2-2 เท่าไหร่ เช่น ตัวกัปตันเคิร์กและเช็คคอฟ หรือสป็อคกับคุณหมอโบนส์ เราจะสนุกที่ได้เห็นพวกเขาพูดคุยและพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ
เสน่ห์อย่างหนึ่งที่หนังเรื่องนี้เแตกต่างจากหนังไซไฟเรื่องอื่นๆ ก็คือการเล่าเรื่องของตัวละครเป็นกลุ่ม การทำงานเป็นทีม ในทุกฉากจะมีการตัดสลับไปมาว่าใครทำหน้าที่อะไรบ้าง ไม่ใช่กัปตันเคิร์กฉายเดี่ยวตลอดเวลา เพราะเขาเองก็ไม่สามารถผ่านเรื่องทั้งหมดไปได้ถ้าไม่มีลูกเรือคอยช่วย
ต่อไปนี้มีสปอยล์
.
.
.
.
.
โดยส่วนตัวแล้วเราชอบหนังเรื่องนี้เพราะการทำงานเป็นทีม มีการแบ่งพาร์ทตัวละครให้ตัวละครไหนเด่นในช่วงใดบ้าง และในภาคนี้ก็มีการแนะนำตัวละครใหม่ๆ ด้วย อย่างเช่นเจย์ล่าห์ แต่เรารู้สึกว่าตัวละครนี้โผล่มาแบบงงๆ ไปหน่อย
แน่นอนว่ากลุ่มลูกเรือของสตาร์ฟลีทต้องหาทางออกจากดวงดาวประหลาดที่พวกเขาเพิ่งตกลงไป แต่อะไร๊มันจะบังเอิญไปเจอเข้ากับยานลำเก่ากึกได้ง่ายขนาดนั้น!? มันช่างเหมาะเจาะ รอการค้นพบอะไรขนาดนี้?
แถมตัวยานยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมรบด้วย มันก็เลยดูไม่สมเหตุสมผลเล็กน้อย แค่นี้เลยที่เรารู้สึกแปร่งๆ แต่โดยภาพรวมก็โอเคนะ
รอบที่#เหมียวฟิ้นไปดูนั้นเป็นรอบ IMAX 3D ขอบอกเลยว่ามันส์มาก!! เพราะอย่างที่รู้ว่ามันเป็นหนังอวกาศ มันจะทำให้คุณลอยเคว้งไปกับตัวยานและเรื่องราวต่างๆ ภาพ 3D จะช่วยเพิ่มมิติให้อีกเยอะ (อวยสุดๆ แล้วนะ ไปดูเถ๊อะ)
ด้วยรักและอาลัย Leonard Nimoy และ Anton Yelchin
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.