‘Shoyna’ หมู่บ้านนักตกปลาในอดีต ปัจจุบันถูกปกคลุมไปด้วยทราย แต่ชาวบ้านก็ยังแฮปปี้สุดๆ!!

Shoyna ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย ติดกับชายฝั่งที่เต็มไปด้วยหาดทรายสีขาว จนได้รับฉายาว่าเมืองแห่งทราย

ในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านของนักตกปลา แต่ปัจจุบันถูกยกเลิกกิจการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่นี่ไม่มีใครถูกจ้างงาน พวกเขาต้องล่าห่านเพื่อประทังชีวิต หากยังนึกภาพไม่ออก ก็ตามมาดูกันได้เลยจ้า

 

และนี่คือภาพของ Shoyna หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ติดกับชายฝั่งของทะเล White Sea ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย

 

ในอดีตนั้นที่นี่เป็นหมู่บ้านของนักตกปลา ชาวบ้านที่นี่พยายามสร้างให้เป็นจุดตกปลาที่แสนสวยงาม ต้องขอบอกเลยว่าในช่วงพีคๆ นั้น มีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่มากถึง 1,500 คนเลยทีเดียว

 

 

แต่ปัจจุบันตึกรามบ้านช่องทั้งหลายนั้นถูกทรายฝังกลบไปแทบจะทั้งหมด นั่นเป็นเพราะว่าที่นี่กลายเป็นพื้นที่ที่คล้ายกับทะเลทรายไปหมดแล้ว

 

 

บ้านแต่ละหลังจะถูกทรายกลืนไปทีละนิดๆ ในช่วงกลางคืน ชาวบ้านต้องเปิดประตูบ้านและหน้าต่างทิ้งไว้ ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ทำ ตื่นเช้ามาจะเปิดประตูออกจากบ้านไม่ได้ในตอนเช้า เพราะลมที่รุนแรงจะพัดพาทรายมาปิดประตูบ้านของพวกเขาไว้

 

 

เมื่อเทียบกับช่วงพีคๆ ที่มีผู้คนอาศัยกว่า 1,500 ผู้คนตกปลาและนำมันมาซื้อขายกันในหมู่บ้าน จนกระทั่งทรายพัดเข้ามาปกคลุมพื้นที่แห่งนี้ ทำให้ปัจจุบันเหลือผู้อยู่อาศัยไม่ถึง 300 คนแล้ว และชาวบ้านก็เลิกทำการประมงไปแล้วด้วย เพราะไม่มีอุปกรณ์เพียงพอ

 

 

การจ้างงานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี แล้วถ้าไม่ตกปลาแล้วพวกเขาเอาชีวิตรอดกันได้อย่างไรล่ะ? ปัจจุบันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ทำการล่า ‘ห่าน’  เพื่อใช้ประทังชีวิต

 

 

และที่นี่ก็กลายเป็นสถานที่อยู่อาศัยของเหล่าสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้งหมี และนกหายากต่างๆ นานา และจะมีผู้เชี่ยวชาญแวะเวียนมาทำการศึกษาเกี่ยวกับนกที่นี่บ้างเป็นบางครั้ง

 

 

หากใครอยากไปเยี่ยมเยียนที่นี่ล่ะก็ขอบอกเลยว่ามันไม่ง่าย เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีถนนทอดยาวไปถึง ไม่มีสถานีรถไฟ เราสามารถเดินทางไปได้โดยทางเครื่องบิน และเรือเท่านั้น (ถ้าไปทางเรือก็จอดที่ชายหาดได้เลย ส่วนเครื่องบินเค้ามีรันเวย์เล็กๆ ให้ แต่ถ้าเป็นเครื่องบินใหญ่ลงไม่ได้นะจ๊ะ)

 

 

ถึงแม้ว่าชาวบ้านสามารถเลือกที่จะทิ้งสถานที่แห่งนี้แล้วไปหาที่อยู่ใหม่ที่มีการจ้างงาน มีสภาพภูมิอากาศที่ดีได้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้นและอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป

และที่สำคัญ ถึงแม้ว่าพวกขาจะอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยความยากลำบาก แต่คนที่เคยมาเยี่ยมเยียนที่นี่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชาวบ้านทุกคนต่างก็อัธยาศัยดี พวกเขาจะแบ่งปันสิ่งของที่เขาหามาได้กับผู้มาเยือนทั้งปลา และไข่ห่าน เป็นต้น

 

 

จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าทำไมจู่ๆ หมู่บ้านแห่งนี้ถึงถูกปกคลุมไปด้วยทราย กลุ่มนักวิจัยเองก็กำลังเร่งหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ บ้างก็บอกว่าการประมงทำให้เกิดการทำลายพืชที่อยู่บนหน้าดิน ที่ทำหน้าที่คอยยึดให้ทรายอยู่ติดกับพื้นแต่พอพืชเหล่านั้นหายไป ลมก็สามารถพัดพาทรายเข้ามากลบถมที่หมู่บ้านแห่งนี้

 

 

และดูเหมือนว่าชาวบ้านที่นี่จะภูมิใจกับวิถีการใช้ชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งตรงข้ามกันกับความยากแค้นของพวกเขา พวกเขาดูมีความสุขดีกันทุกคนเลยล่ะ ^^

 

 

ถึงแม้ว่าสภาพภูมิประเทศจะโหดร้ายแค่ไหน แต่พวกเขาก็ดูจะใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ เลยนะเนี่ย ^^

ที่มา : lifebuzz