ทุกๆ ปี เมื่อมาถึงเทศกาลกินเนื้อสุนัขประจำปีที่ประเทศจีน จะต้องมีสุนัขถูกฆ่าตายมากกว่า 10,000 ตัว เพื่อเสิร์ฟในงานเลี้ยง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยอมอุทิศชีวิตทั้งกายและใจของเขา เพื่อช่วยเหล่าสุนัขที่น่าสงสารเอาไว้ เหมือนกับผู้หญิง วัย 53 ปี คนนี้…
Wen Li คุณครูโรงเรียนมัธยมจากมณฑลกานซู ที่ยอมลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลบ้านสงเคราะห์สุนัขในโรงนาของเธอตั้งแต่ปี 2011 มาแล้ว
ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เธอรับสุนัขมาเลี้ยงแล้วทั้งหมด 220 ตัว โดยมีทั้งผู้ที่นำมาปล่อยและเธอรับมาเอง เธอเรียกตัวเองว่าเป็น ‘คุณยาย’ และปฏิบัติกับหมาๆ ดั่งเป็นลูกหลานของเธอ
แต่ก็แน่นอนว่า เมื่อจำนวนสุนัขเร่ร่อนมีมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มากขึ้นตามไปด้วย และนอกจากเธอจะต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อเช่าบ้าน เธอก็ยังต้องใช้เวลาทั้งวันดูแลมันด้วย
ในทุกๆ วัน เธอจะซื้อขนมปังกรอบจำนวน 80 ชิ้น อาหารสุนัข 7.5 กก. และเนื้อตับ 2.5 กก. มาเลี้ยงสุนัข 2 มื้อต่อวัน ซึ่งค่าอาหารในวันหนึ่งก็ตกหลายร้อยหยวน แต่เธอก็ทำงานพิเศษเพื่อหารายได้มาจุนเจือ และอีกส่วนหนึ่งได้มาจากผู้มีจิตศรัทธาที่มาบริจาคช่วยเหลือ
แต่บางครั้ง เธอต้องยืมเงินจากทั้งธนาคารและญาติพี่น้องเพื่อมาดูแลบ้านสุนัขเหล่านี้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอต้องแตกหัก และตัดขาดกับญาติแท้ๆ ของตัวเอง
ปีที่แล้ว เธอประสบกับปัญหาทางการเงิน ทำให้เธอต้องขายอพาร์ตเมนท์ ซึ่งอันที่จริงอพาร์ตเมนท์ควรจะต้องตกเป็นของลูกสาวเธอ แต่ถึงอย่างนั้น ลูกสาวของเธอก็ยังสนับสนุนและอยู่เคียงข้างการกระทำอันยิ่งใหญ่ของแม่เธอเสมอ แม้ว่าญาติคนอื่นจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
สาเหตุที่เธอต้องทิ้งทุกอย่าง ก็เพื่อมาเลี้ยงสุนัขเหล่านี้ ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว นอกจากเธอไม่อาจปล่อยสุนัขพวกนี้ทิ้งไป จึงรับความรับผิดชอบนี้มาเป็นของตัวเอง
“คนที่มีมโนธรรมก็คงจะทำเหมือนกับฉันนั่นแหละ ลองนึกดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าละทิ้งสุนัขพวกนี้ไป…”
#เหมียวขาสั้นก็จำได้ว่าประเทศไทยก็คนที่ใจดีแบบนี้เหมือนกัน ที่เปลี่ยนบ้านของตัวเองมาเป็นบ้านสงเคราะห์น้องหมา สำหรับคนที่ทำสิ่งดีๆ แบบนี้ ต้องขอชื่นชมในความเสียสละจริงๆ
ที่มา: Shanghaiist
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.