10 ปรากฏการณ์เจ๋งๆ ที่จะเกิดขึ้นบนโลก แต่ต้องเฉพาะ ‘ฤดูร้อน’ เท่านั้นนะ!!

ช่วงนี้ถึงจะเป็นหน้าฝนของบ้านเรา แต่ในซีกโลกเหนือหรือแถบอบอุ่นก็จะเป็นช่วงฤดูร้อน และเป็นที่ชื่นชอบกันมากเนื่องจากมันเป็นเวลาที่จะได้ออกนอกบ้านไปทำกิจกรรมอะไรต่างๆ

ถ้าจะพูดถึงเรื่องหน้าร้อนแล้วล่ะก็ ประเทศไทยบ้านเราคงไม่ปลื้มกันเท่าไหร่ เพราะว่าอากาศและอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นมากจนเหงื่อไหลเหนอะหนะไปทั้งวันเลยทีเดียว

แต่เชื่อมั้ย ในหน้าร้อนนี่แหละ ก็มีเรื่องน่ารักๆ เกิดขึ้นกับโลกของเราอย่างที่ฤดูอื่นไม่มีด้วยล่ะ ถ้าเราสังเกตและลองนึกดีๆ ล่ะก็ เราอาจจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วก็เป็นได้…

 

1. อุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้น

 

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเราหรอก แต่ลองจินตนาการถึงเมืองหนาวสิ หน้าร้อนนี่สวรรค์เลยล่ะเพราะอากาศกำลังอบอุ่นพอดี และสาเหตุที่ทำให้มีฤดูกาลเกิดขึ้นบนโลกของเราก็เพราะแกนของโลกทำมุมเอียงราวๆ  23.5 องศา ยังไงล่ะ!!

 

2. บริเวณอาร์คติกเซอเคิลนั้นแทบจะได้รับแสงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง

 

โดยเฉพาะตรง North Pole จะได้รับแสงตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมถึงราวๆ 23 กันยายนของทุกๆ ปีเลยทีเดียว

 

3. ตำแหน่งของดวงดาวจะเปลี่ยนไป

 

ขณะที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ ท้องฟ้าในฤดูร้อนกับฤดูหนาวนั้นย่อมแตกต่างกัน หรือจะกล่าวให้ถูกต้องก็คือ เราเห็นจะดวงดาวที่ควรจะเห็นช่วงฤดูหนาวได้ตอนกลางวันของฤดูร้อนนั่นเอง แต่เนื่องจากตอนกลางวันแสงสว่างเยอะเราเลยไม่เห็น ทำให้ท้องฟ้าช่วงซัมเมอร์นั้นจะสวยงามมากเป็นพิเศษ

 

4. เกิดฟ้าผ่าบ่อยขึ้น

 

การเกิดฟ้าผ่านั้นส่วนมากก็มาจากการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองนั่นเอง เพราะอากาศที่ร้อนชื้นเลยทำให้เกิดฝนตกบ่อยๆ และยิ่งมีความชื้นมากเพราะไอน้ำระเหยขึ้นไปบนอากาศมากขึ้น พอเจออากาศเย็นข้างบนก็เกิดการกลั่นตัว และเกิดการชนกันของอิเล็กตรอนขึ้น สะสมจนเกิดฟ้าผ่าลงมา

 

5. รุ้งไฟสามารถพบได้มากขึ้น

 

ปรากฏการณ์รุ้งไฟเกิดขึ้นจากการที่แสงจากดวงอาทิตย์หักเหออกจากผลึกน้ำแข็งในเมฆเซอรัสในแนวราบ ทำให้เกิดสีรุ้งขึ้นบนเมฆ มีลักษณะคล้ายๆ เปลวเพลิง

 

6. ถ้าโชคดีล่ะก็จะได้เห็น Night-shining clouds ด้วย!!!

 

พูดง่ายๆ นั่นก็คือเมฆที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืนแต่สามารถเรืองแสงได้นั่นเอง สามารถพบได้ยามอาทิตย์อัสดงของหน้าร้อน เกิดที่บริเวณใกล้ๆ ขั้วโลก โดยแสงอาทิตย์จากอีกฟากส่องมาปะทะกับเมฆ จึงเห็นเหมือนกับเรืองแสงได้

 

7. หิ่งห้อยชุมนุมกันในตอนค่ำ แถมมีสีคล้ายๆ กันด้วย!!!

 

ทุกๆ ปีราวๆ 2-3 สัปดาห์เหล่าหิ่งห้อยจะมารวมตัวกัน เพราะว่าแต่ละสปีชีย์จะมีแสงที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงเกิดการรวมกลุ่มของสปีชีย์เดียวกันขึ้นเพื่อผสมพันธุ์กันในฤดูร้อนนั่นเอง นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมช่วงนี้หิ่งห้อยจึงมีสีเท่ากัน

 

8. ลูกเต่าจะฟักตัวและรีบว่ายน้ำกลับสู่ทะเล

 

ในฤดูร้อน เต่าทะเลตัวเมียจะขึ้นมาวางไข่ที่ชายหาดราวๆ 100 ฟองแล้วรีบว่ายน้ำกลับทะเล ผ่านไปราวๆ 60 วัน ใต้ผืนทรายของฤดูร้อนอันร้อนระอุ ลูกเต่าจะถูกฟักออกมา พักอยู่ในรังใต้ดินราวๆ 2-3 วันดูดซึมไข่แดงเพื่อเป็นพลังงาน แล้วก็รีบพุ่งกลับลงสู่ทะเล…

 

9. ปลาวาฬจะถูกพบมากในบริเวณทะเลเหนือ

 

ช่วงหน้าร้อนนี่แหละช่วงไพร์มไทม์ของเหล่าปลาวาฬที่จะขึ้นไปหากินแถบทะเลเหนือกัน ทั้งอ่าว Maine ในแอตแลนติกตอนเหนือ และอ่าว Alaska ในแปซิฟิกเพื่อหาคริลล์และแพลงตอน โดยเฉพาะเหล่าวาฬหลังค่อม ที่นักดูวาฬนิยมกันมากที่สุด

 

10. ปลาแซลมอนจะว่ายทวนน้ำเพื่อไปวางไข่

 

ทุกๆ ปี แซลมอนจะว่ายน้ำจากมหาสมุทรไปยังแม่น้ำที่มันกำเนิดเกิดมา แต่เรื่องน่าเศร้าก็คือหลังจากการเดินทางไกลมาทั้งปี และสมบุกสมบันว่ายทวนน้ำกลับมายังถิ่นกำเนิดเพื่อวางไข่ ณ สถานที่แห่งนั่น แซลมอนเหล่านี้ก็จะพักร่างและตายไปในที่สุด… (ยังไม่รวมที่โดนหมีดักกินอีกนะ)

 

และนี่ก็คือ 10 เรื่องราวธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนโลกของเราในช่วงฤดูร้อนนะจ๊ะ มีปรากฎการณ์ใดที่เพื่อนๆ ชอบกันบ้างรึเปล่าหน๊อออ??

 

ที่มา: BusinessInsider