ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความหวังของ DC และ Warner Bros. เลยก็ว่าได้ เพราะ Suicide Squad เป็นหนังเรื่องที่ 3 ของ DCEU (DC Extended Univers) ที่จะเป็นการสานต่อจาก Man of Steel และ Batman v Superman และจะส่งไม้ต่อไปยังหนังเรื่องต่อๆ ไปด้วย
มาคราวนี้ดูจะแรง ตั้งแต่การเลือกนักแสดง การปล่อยโปสเตอร์สีฉูดฉาดและตัวอย่างหนังที่ใช้เพลงได้เร้าอารมณ์เหลือเกิน จะถูกใจคนดูอย่าง#เหมียวฟิ้น ไหม ลองมาอ่านรีวิวกันเลย
ในหนังเรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ที่ไม่มีซุปเปอร์แมนคอยปกป้องโลก ทางรัฐบาลจึงต้องหาทางทำอะไรสักอย่างขึ้นเพื่อปกป้องโลก พวกเขาเลยตั้งทีมที่รวบรวมเอาเหล่าจารชนและวายร้ายผู้มีพลังพิเศษ (หรือที่ในหนังเรียกเมตาฮิวแมน) มาช่วยแทน
แต่แน่นอนว่าพวกเขาแตกต่างจากฮีโร่ ที่ตั้งต้นด้วยแนวคิดอยากช่วยเหลือคนอื่น ทำให้ทีมของพวกเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้ แล้วภารกิจการปกป้องโลกโดยกลุ่มคนที่ไม่ได้อยากปกป้องโลกเท่าไหร่จะเป็นยังไง ไปชมกันในโรงเลยจ้า
หลังจากที่เข้าโรงไปด้วยความหวังว่ามันต้องจี๊ดจ๊าดแบบเดียวกับที่โปสเตอร์และตัวอย่างทำไว้ก็พบว่า ตัวละครหลายๆ ตัวดูแสบและมีเสน่ห์มาก อย่างตัวชูโรงอย่าง Harley Quinn หรือ Dead Shot ทั้งสองตัวนี้ดูจะมีมิติด้านอื่นๆ นอกเหนือจากความร้าย โดยเฉพาะรายหลัง
ซึ่งถ้าไม่นับ 2 ตัวละครข้างต้น ตัวที่เด่นๆ อีกก็จะมี Rick Flag นอกเหนือจากนั้นก็บทน้อยลดหลั่นกันไป แม้แต่ตัวเด็ดอย่าง The Joker ที่มีการโปรโมทสุดๆ และน่าจับตามองมากๆ แต่ในหนังกลับโผล่ออกมาน้อย และไม่ค่อยมีผลกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ (มีก็ได้ไม่มีก็ได้)
แต่เราก็ไม่ได้เกลียดตัว Joker นะ เพราะเราสัมผัสได้ว่า Jared Leto แกตั้งใจแสดงมาก ดูฉีกไปจาก Joker เวอร์ชั่นก่อนๆ มันดูร้ายในแบบที่สามารถลบคำสบประมาทของคนได้ แต่น่าเสียดายที่ออกมาน้อยเลยทำให้ไม่ได้โชว์พลังการแสดงเท่าที่ควร
ส่วนที่#เหมียวฟิ้นว่าเป็นจุดบกพร่องจริงๆ ของหนังเรื่องนี้ ก็คือการดำเนินเรื่องที่มันเรื่อยๆ ไม่มีจุดพีค ตรรกะในการตัดสินใจของตัวละครดูแปลกมากๆ (หากคุณว่ามุก “มาร์ธา” มันแปลกแล้ว ในหนังเรื่องนี้มียิ่งกว่านั้นอีก)
บทดูไม่มีน้ำหนักพอที่จะให้ตัวละครที่ทำแต่เรื่องเลวๆ หันมาทำอะไรดีๆ สักอย่าง จู่ๆ บทจะดีก็ดีกันแบบงงๆ (เฮ้ยแบบนี้ก็ได้เหรอ?)
ในบางซีนรู้สึกประดักประเดิดอยู่บ้าง บางฉากน่าจะยาวกว่านี้อีกนิด แต่ก็สั้น บางฉากโผล่มาแบบงงๆ แถมยังเกลี่ยบทได้ไม่เท่ากัน หากใครได้ดูจะพบว่าตัวเด่นๆ มีแค่ 2-3 ตัว
แต่ใช่ว่าเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งความย่ำแย่ตามที่นักวิจารณ์หนังเขาก่นด่ากันนะ เพราะสำหรับเราเองก็ยังรู้สึกสนุกไปกับหนังอยู่ เพียงแต่ไม่สุด เพราะมันไม่ได้ดูจี๊ดจ๊าดเหมือนกับที่ตัวอย่างหนังได้พยายามโปรยเอาไว้
หากใครที่เคยผ่าน Batman v Superman มาแล้วและคิดว่ารับได้ เราอยากจะบอกคุณว่าเรื่องนี้ก็สบายมาก สำหรับหนังเรื่องนี้บางคนอาจจะบอกว่ามันมาก บางคนอาจจะเฉยๆ หรือถึงขั้นเกลียดไปเลย แต่ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็มาคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะ…ปิดท้ายด้วยซีนที่ชอบที่สุดในหนัง…
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.