หนังซอมบี้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากฝั่งตะวันตก และมีการวิวัฒนาการต่อยอดจนกลายเป็นหนังสือการ์ตูน ทีวีซีรี่ส์ หรือแม้แต่แอนิเมชั่น จากนั้นก็แพร่พันธุ์ออกไปยังหลายๆ ประเทศ ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป อย่างในไทยเราก็มีมาแล้วเช่น ขุนกระบี่ผีระบาด และ ผีห่าอโยธยา
และวัฒนธรรมซอมบี้นี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปเกาหลีใต้ ประเทศที่เก่งกาจในเรื่องการทำละครดราม่าโรแมนติก ล่าสุดพวกเขาได้ส่ง Train to Busan หนังระทึกขวัญเกี่ยวกับซอมบี้ออกมาให้ชาวโลกได้ชมกัน แล้วมันจะสยองแอ็คชั่นได้เท่ากับที่ฝั่งอเมริกาทำไหม? เราลองมาดูกันเลย
Train to Busan ว่าด้วยเรื่องของซอกวู หนุ่มนักธุรกิจหัวก้าวหน้าที่ต้องพาลูกสาวเดินทางไปหาแม่ของเธอยังเมืองปูซาน ทางตอนใต้ของประเทศนั่นเอง
แต่ในระหว่างทางกลับเกิดเหตุไวรัสซอมบี้ระบาดบนรถไฟ ทำให้รถไฟทั้งขบวนกลายเป็นนรกปิดตาย ที่ไม่มีคนขึ้นมาช่วย และคนบนขบวนเองก็ไม่สามารถหนีออกไปได้เช่นกัน
หนังตีแผ่ด้านดิบของมนุษย์ได้เหมือนๆ กับหนัง+ซีรี่ส์ซอมบี้ทั่วไป แต่เราถือว่าเรื่องนี้ทำได้ดีมากๆ เพราะตอนเข้าไปดู เราตั้งความหวังว่ามันคือหนังเกาหลี และคิดว่ามันคงทำได้ประมาณหนึ่ง
แต่ปรากฏว่าพอได้ดูจริงๆ เราลืมไปเลยว่ามันคือหนังเกาหลี เพราะบทดีมาก (ก.ไก่ สิบตัว) มีการเกลี่ยบทให้ทุกตัวละครมีบทบาท แม้แต่ตัวละครบางตัวที่ดูแบนๆ หนังก็ยังอุตส่าห์ใส่มิติด้านอื่นเข้ามาให้เราเห็น
หนังใช้เวลา 10-15 นาทีแรกได้อย่างคุ้มค่ามาก มันปูตัวละครแต่ละตัวให้คนดูเข้าใจว่าบุคลิกเป็นยังไง ผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เราก็จะรู้ได้ว่าตัวละครตัวไหนมีน้ำใจ ตัวนี้เห็นแก่ตัว ตัวนี้ไว้ใจไม่ได้ และเราควรเอาใจช่วยตัวละครไหนให้รอดตาย
ซึ่งตัวละครแต่ละตัวนั้นมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนมาก หลายๆ ตัวมีมิติมากกว่าแค่คนดีหรือไม่ดี
หนังจะมีการปูปมหรือเรื่องราวเล็กๆ ในตอนต้นเรื่องอยู่หลายอย่าง ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดว่ามันมีผลอะไรมาก แต่พอมาช่วงท้ายเรื่องมันกลับเอามาใช้ได้อย่างครบถ้วน (บางอันนี่น้ำตาแตกเลยนะ)
การดำเนินเรื่องมีช่วงตื่นเต้น มีช่วงซึ้งในช่วงที่พอดิบพอดี มีเร่งบ้างมีผ่อนบ้างพอให้ลุ้นและพักหายใจ
อีกส่วนที่ดีมากของหนังเรื่องนี้คือการเลือกใช้นักแสดงที่ไม่ได้หน้าตาดีมากมารับบทในหนังเรื่องนี้ เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีตัวละครไหนเด่นเกินไป ทุกตัวละครน่าจะเป็นคนในสังคมของเราจริงๆ ส่งผลต่อการคาดเดาว่าใครจะรอดหรือไม่ด้วยนะ
ลองชมตัวอย่างแบบซับไทยได้ที่นี่เลย
อันที่จริงแล้วหนังมีกำหนดฉายในบ้านเราจริงๆ ในวันที่ 11 สิงหาคม แต่เริ่มฉายรอบสนี๊ก (รอบหลัง 2 ทุ่ม) มาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ซึ่งดูเหมือนคนจะยังไม่ค่อยรู้จักหนังเรื่องนี้เท่าไหร่ #เหมียวฟิ้นอยากบอกว่ามันทำได้ดีไม่แพ้หนังฮอลลีวูดเลย มีครบรส อยากแนะนำให้ไปดูกันมากๆๆๆ แถมดูหนังเรื่องนี้จบแล้วคุณจะนึกรักพ่อขึ้นมาทันที
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.