คนจรจัดส่วนใหญ่ มักถูกเหมารวมว่าเป็นคนสติไม่ดี หรือเป็นคนมีปัญหาทางจิต จึงไม่ค่อยมีใครใส่ใจกับพวกเขาสักเท่าไร ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นไปซะทุกคน….
เช่นเดียวกับกรณีของ Wanda Witter ที่ต้องใช้ชีวิตเป็นคนเร่ร่อนข้างถนนเป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งเป็นผลจากความผิดพลาดของประกันสังคมที่เธอได้ทำไว้ ทำให้เธอต้องกลายเป็นคนจรจัดในที่สุด
เรื่องราวของเธอเริ่มขึ้นเมื่อเธอตกงาน ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ในปี 1999 พร้อมลูกๆ อีก 4 คน โดยเธอหวังว่าจะหางานใหม่ที่นั้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีงานทำอยู่ดี Witter จึงตัดสินใจถอนเงินประกันสังคมออกมา
โดยเงินที่เธอต้องได้นั้นคือ 31,038 บาทต่อเดือน แต่ทางประกันสังคมแจ้งว่า เธอจะได้รับแค่ 10,346 บาทต่อเดือน เธอคิดว่า ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ เธอจึงขอให้พวกเขาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ก็ได้รับการยืนยันเหมือนเดิม เธอตัดสินใจไม่รับเงินเพื่อพิสูจน์ว่า พวกเค้าคิดเงินผิดไปจริงๆ
ในระหว่างที่เธอพยายามที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบนี้ เธอกลายเป็นคนจรจัดที่ต้องนอนอยู่ข้างถนน พร้อมกระเป๋าเอกสารอีกสามใบ โดยพยายามติดต่อกับรัฐบาลหลายครั้ง เพื่อเล่าเรื่องราวของเธอ แต่คนส่วนใหญ่หาว่าเธอจิตไม่ปกติและไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด
เธอจะนอนใกล้กับร้านแมคโดนัลด์ ในย่านดาวน์ทาวน์ของวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมกระเป๋าเอกสาร 3 ใบ
แต่แล้วในที่สุด Julie Turner นักสังคมสงเคราะห์ ก็เป็นคนเดียวที่รับฟังเรื่องราวของเธอในปี 2015 และเป็นคนเดินเรื่องให้ โดยได้ส่งเอกสารไปให้ทนายความ Daniela de la Piedra เขาจึงได้ประสานไปยังประกันสังคมของเธอ
เมื่อได้รับการตรวจสอบแล้วทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา เธอได้เงินคืนงวดแรกประมาณ 50,000 บาท ไม่นานหลังจากนั้นประกันสังคมก็ได้โอนเงินเข้าบัญชีเธอเป็นเงินจำนวน 3.4 ล้านบาท
ต่อมาเธอก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในแฟลตเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน
นี่เป็นตัวอย่างของคนจรจัดที่ไม่ใช่ปัญหาทางจิตแต่เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ อาจจะมีอีกหลายคนที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ เราเองช่วยพวกเขาได้โดยการเปิดใจรับฟังพวกเขาให้มากขึ้นนะคะ
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.