ใครชอบไปเที่ยวสวนสนุกบ้างยกมือขึ้น!!! คงมีคนส่วนน้อยที่ไม่ชอบ แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วใครๆ ก็ชอบทั้งนั้นแหละ เพราะนอกจากจะได้เล่นเครื่องเล่นหวาดเสียว จนหัวใจแทบจะเต้นจนหลุดออกมาจากอกแล้ว สถานที่เหล่านี้ยังเต็มไปด้วยประสบการณ์ดีๆ อีกมากมาย เหมาะทั้งมากันเป็นแก๊ง หรือมากับครอบครัว
แต่ถ้าจะพาไปสำรวจสวนสนุกของดิสนีย์ในปัจจุบัน ก็ดูจะน่าเบื่อไป คราวนี้เรามาเปลี่ยนอารมณ์กันบ้างดีกว่า…กับสวนน้ำแห่งแรกของโลกจาก Disney และที่สำคัญมันถูกทิ้งร้างไว้มานานกว่า 15 ปีแล้ว!!! กับภาพที่ถูกถ่ายทอดออกมาโดยช่างภาพ Seph Lawless ภายใต้คอนเซ็ปท์ที่ชื่อว่า ‘Dismaland’
ค.ศ. 1976 คือปีที่สวนน้ำดิสนีย์แห่งแรกของโลกได้เปิดตัวขึ้นที่ Orange County รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ อีกทั้งยังได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากมวลชน ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการกันอย่างหนาแน่น
แต่ก็ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุใด 25 ปีต่อมา มันถูกปิดตัวลงซะงั้น หลังจากนั้นจวบจนปัจจุบัน มันถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง ไร้คนดูแล มานานกว่า 15 ปีแล้ว
ซึ่งที่เมือง Orange County มีสวนน้ำถึง 2 แห่ง แต่น่าเสียดายที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้รกร้าง และเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาทั้งสองที่
สื่ออย่าง Orlando Sentinel ยังประกาศอีกด้วยว่า เป็นพื้นที่ที่มีแต่น้ำขัง และป่ารกชัฏ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงร้ายชั้นเยี่ยม และแน่นอนว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเชื้อไวรัสซิกา ที่กำลังระบาดอยู่อีกด้วย
แทบจะทั้งสวนสนุกถูกปกคลุมไปด้วย น้ำขัง และมอสส์
สภาพของสไลเดอร์ที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ และไม้เลื้อยชนิดต่างๆ ทำให้เห็นว่าไม่ได้รับการดูแลเป็นเวลานานมากๆ
สระว่ายน้ำที่ตอนนี้มันกำลังจะถูกสูบน้ำออก และแทนที่ด้วยคอนกรีต
สภาพห้องทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร และวอลเปเปอร์บนผนังที่หลุดลอกออกมาหมดแล้ว
หมวกทรงสูงปริศนาที่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่บนสะพานนี้ได้อย่างไร (คงมีคนลืมไว้แหละ)
“ผมอยากจะสื่อความรู้สึกของการถูกทิ้งร้าง ผ่านภาพถ่ายเหล่านี้ และให้ผู้ชมได้รู้สึกไปกับมัน” คำกล่าวของช่างภาพต่อผลงานของเขา
ช่างภาพคนนี้เป็นเหมือนนักกิจกรรมมากกว่าศิลปินซะอีก เพราะเขามักจะเดินทางไปยังสถานที่ร้างต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ และนำเสนอมุมมองของเขาผ่านเลนส์กล้องออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
“ซึ่งอันที่จริงมันน่าจะได้รับการดูแล อย่างน้อยก็สำหรับสัตว์ป่าทั้งหลายที่อาศัยอยู่แถวนั้น หรือจะทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติแทน”
“และถึงแม้ว่าดิสนีย์จะเป็นบริษัทที่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ควรมีบริษัทไหนที่ใหญ่พอที่จะซ่อนความจริง และปล่อยปละละเลยกับสิ่งที่ตนทำทิ้งไว้”
“มันเป็นความรู้สึกที่เหนือคำบรรยาย ทุกครั้งที่ผมถ่ายภาพสถานที่ร้าง เหมือนกับว่าเราได้เป็นสักขีพยานต่อสิ่งที่ตายไปจากโลกนี้แล้ว” Lawless กล่าว
และถึงแม้ว่าจะไม่มีใครมาแก้ไขอะไร แต่ที่นี่ก็จะถูกเรียกว่า ‘Dismaland’ ต่อไป..
รู้สึกน่าเสียดายมากๆ กับพื้นที่จำนวนมาก ที่สามารถนำไปต่อยอดอะไรได้อีกหลายอย่าง ลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าจู่ๆ ดิสนีย์ใจดีประกาศยกพื้นที่นี้ให้ เพื่อนๆ จะเอาพื้นที่กว้างขนาดนี้ไปทำอะไรกันต่อบ้างเอ่ย?
ที่มา: BusinessInsider
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.