ปาฏิหาริย์มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ยอมแพ้อยู่เสมอ…
มีแต่คนเชื่อว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน แต่เจ้าทาสของมันกลับไม่เชื่อแบบนั้น เธอมองเห็นพลังสู้ในใจของมันก็เลยตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถและในที่สุดมันก็รอดตาย และกลายเป็นแมวเหมียวที่มีหน้าตาน่ารักซะเหลือเกิน
มารู้จักกับเจ้า Jon Snow แมวเหมียวที่มาพร้อมกับปาฏิหาริย์
ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าเหมียวจรจัดตัวหนึ่งที่มีสภาพร่อแร่ใกล้ตายถูกพบอยู่ในตรอกแห่งหนึ่ง เนื้อตัวของมันมีสภาพสกปรกมอมแมมดูน่ารังเกียจ
มันถูกพาไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ และเจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจที่จะการุณยฆาตมันซะ เพราะดูแล้วมันคงไม่รอดแน่ๆ ปล่อยทิ้งไว้ก็ทรมานซะเปล่าๆ
แต่สุดท้ายชะตากรรมของมันก็เปลี่ยนไป “สองวันหลังจากที่มันถูกพาไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ ฉันได้เห็นภาพของมันผ่านเว็บไซต์ของสถานสงเคราะห์สัตว์ ก็เลยตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมัน” Rachel Brown ทาสผู้ช่วยชีวิตของมันกล่าว
“เจ้าหน้าที่ได้ระบุข้อมูลของมันในเว็บไซต์ว่า มันมีรูปร่างที่ผอมกะหร่อง และมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนอย่างรุนแรง ทำให้มันมีหนองไหลออกมาทางตาและจมูกเป็นจำนวนมาก”
เมื่อคุณ Rachel ได้ไปที่สถานสงเคราะห์สัตว์ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เตือนเธอว่าการรักษามันให้หายเป็นปกตินั้นจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเลยนะเพราะมันป่วยหนักมาก
เท่านั้นยังไม่พอเขายังทำการพูดตัดกำลังใจเพื่อโน้มน้าวไม่ให้เธอรับเจ้าเหมียวไปเลี้ยง แต่ก็ไม่ได้ผล
ในวันที่ 26 มิถุนายน คุณ Rachel ได้พาเจ้าเหมียวออกมาจากสถานสงเคราะห์ และพามันไปยังโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงในละแวกนั้น
“ทันทีที่ฉันไปถึง ก็ได้พาเจ้าเหมียวไปให้กับสัตวแพทย์ดู ซึ่งเขาต้องใช้แพทย์ถึง 5 คนเพื่อมาดูอาการของเจ้าเหมียวเลยทีเดียว พวกเขานำเลือดของมันไปตรวจ และก็พบว่ามันติดเชื้อไวรัส Coronavirus ที่ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจของมันอักเสบ” Rachel กล่าว
“พวกเขาลงมือโกนขนที่พันกันของมันออกบางส่วน และล้างทำความสะอาดใบหน้าของมัน เจ้าเหมียวมีน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น ทั้งๆ ที่มีอายุตั้ง 1-2 ปี ซึ่งเป็นน้ำหนักที่น้อยมาก มันมีแผลเป็นหนองอยู่ในปาก และแผลอักเสบทั่วร่างกาย” เธอกล่าวเสริม
ทางโรงพยาบาลสัตว์พาเธอไปนั่งคุยในออฟฟิศและบอกเธอว่าพวกเขาทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว แต่อาการเจ็บป่วยของมันนั้นรุนแรงเหลือเกิน มันอาจจะไม่รอดก็เป็นได้
พวกเขาก็เลยเสนอทางเลือกที่จะฉีดยาเพื่อให้มันจากไปอย่างสงบ แต่คุณ Rachel เลือกที่จะปฏิเสธและลองให้โอกาสมันได้สู้ต่อไป
“ฉันเลือกที่จะทำการรักษามันต่อไป และได้พามันไปยังโรงพยาบาลสัตว์ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมที่อยู่ห่างไกลออกไปจากเมืองที่อาศัยอยู่ เจ้าเหมียว Jon ใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ถึง 5 วันด้วยกัน ฉันต้องใช้เวลานั่งรถไฟเป็นเวลากว่า 30 นาที เพื่อมาที่นี่ทุกวันหลังจากเลิกงาน แต่ฉันก็เต็มใจที่จะทำมัน “
“ในวันที่สองอาการของมันเริ่มทรุดลง แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ มันไม่กินอาหารเลย แต่แพทย์ก็ไม่ได้แนะนำให้เธอยอมแพ้เหมือนกับครั้งก่อน พอมาถึงวันที่ 3 มันก็เริ่มที่จะกินอาหาร ฉันยืนอยู่หน้ากรงของมันและพูดว่า ‘กินสิจอน’ และมันก็เริ่มเดินเข้ามาดมๆ ที่ถาดอาหารแล้วก็เริ่มกิน มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลยล่ะ” คุณ Rachel เล่าให้ฟัง
“ในวันที่สี่ มันเริ่มที่จะเล่นสนุก และสำรวจห้องในโรงพยาบาล และในวันที่ห้า สัตวแพทย์ก็ได้มาทำการตรวจเลือดของมันอีกครั้ง และก็พบว่ามันหายกลับมาเป็นปกติแล้ว” คุณ Rachel กล่าวอย่างดีใจ
ทีมสัตวแพทย์บอกว่าพวกเขาไม่เคยเห็นเจ้าเหมียวตัวไหนที่สามารถฟื้นตัวได้เร็วเท่ากับเจ้า Jon มาก่อนเลย ซึ่งคุณ Rachel คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันจะต้องผ่านไปได้ และมันก็ทำสำเร็จจริงๆ
“ฉันสามารถพามันกลับมาที่บ้านได้ในวันที่ 6 พอมาถึงที่บ้านฉันก็เริ่มทำการรักษาอาการกระเพาะอักเสบ และโรคหวัดให้กับมัน ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ยาหยอดตา และทาครีมตรงส่วนที่ไม่มีขนบนหน้าของมันเพื่อป้องกันเชื้อรา จากนั้นก็ให้ทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงตับ”
เจ้า Jon สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าสัตวแพทย์ทุกครั้งที่กลับไปเพื่อเช็คอาการ
ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่พาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา อาการติดเชื้อของมันก็เริ่มหายไป
“จากการไปพบสัตวแพทย์ตามนัดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเขาบอกว่าตอนนี้เจ้า Jon มีสุขภาพที่แข็งแรงดีแล้ว ตอนนี้เรื่องที่ต้องทำก็มีเพียงแค่ให้อาหารเสริมเพื่อบำรุงตับทุกวันอย่าให้ขาดเท่านั้นเอง” คุณ Rachel กล่าว
“ฉันได้เฝ้ามองเจ้า Jon ค่อยๆ หายดีในทุกๆ วัน ซึ่งถ้าเทียบกับวันแรกที่ได้พบกันนั้นมันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ ราวกับว่ามีปาฏิหาริย์เล็กๆ เกิดขึ้นเลยล่ะ”
“มันชอบที่จะเล่นของเล่นที่ฉันซื้อมาให้ และกระโดดเข้าไปเล่นในกล่อง เท่านั้นยังไม่พอมันชอบกินอาหารและดื่มน้ำเป็นอย่างมากเลยล่ะ แถมยังไม่ต้องสอนให้มันใช้กระบะทรายด้วยนะ เพราะมันใช้เป็นอยู่แล้ว” คุณ Rachel เล่า
“มันเดินตามฉันไปทุกๆ ที่ในอพาร์ทเม้นท์ และก็ชอบที่จะเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เจ้า Jon นอนบนเตียงเดียวกันกับฉันทุกคืน และบางครั้งก็ขึ้นมานอนบนหมอนใกล้กับหัวของฉันด้วย”
“มันชอบที่จะให้ฉันลูบหลัง และหน้าท้องราวกับว่าเป็นลูกหมาน้อยเลยล่ะ แถมมันยังคุยกับฉันบ่อยๆ ด้วยการร้องเมี๊ยวๆ ออกมาเป็นคำสั้นๆ” คุณ Rachel เล่า
จากตอนนั้นที่พาไปยังโรงพยาบาลสัตว์ในช่วงแรกนั้นมันมีน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม มาถึงตอนนี้มันหนักไปแล้วถึง 3 กิโลกรัมภายในเวลาเพียงเดือนครึ่งเท่านั้น และขนที่ถูกโกนไปในตอนแรกนั้นตอนนี้ก็ยาวสลวยขึ้นมาแล้ว
เจ้าเหมียว Jon มักจะเข้ามาคลอเคลียกับเจ้าทาสของมันพร้อมกับส่งเสียงกรนราวกับพายุ
ไม่มีใครเชื่อว่าเจ้าเหมียวตัวนี้จะรอดตาย มีแต่คุณ Rachel เท่านั้นที่ไม่ยอมแพ้ และรู้ว่ามันต้องการโอกาสที่จะสู้ ในที่สุดมันก็ทำได้ และตอนนี้ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกับคนที่รักมัน
“มันเป็นแมวที่ขี้สงสัย และน่ารักมาก ฉันรักมันด้วยหัวใจทั้งหมดที่ฉันมี” คุณ Rachel กล่าวปิดท้าย
ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะจ๊ะ หลังจากที่ตรากตรำร่วมสู้กันมาตั้งนาน ในที่สุดก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขซักที ^^
ที่มา : lovemeow
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.