ถ้าพูดถึงทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายคนคงนึกถึงการรบอันห้าวหาญไม่กลัวตาย ที่ยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อแลกกับชีวิตศัตรูในการปกป้องประเทศ
แต่รู้หรือไม่ ในช่วงสงครามนั้นมีทหารญี่ปุ่นคนหนึ่ง ขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ไม่ยอมให้ลูกน้องของตนเองสละชีพ และเขาก็สังเวยชีวิตตนเองเพื่อรับผิดชอบต่อการขัดคำสั่งครั้งนั้น เราไปติดตามเรื่องของเขาพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
นายทหารคนนี้มีชื่อว่า ฮิโรเอดะ โอโตมอน เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1905 ในระยะแรกของชีวิตเขาก็ใช้ชีวิตเหมือนกับหนุ่มชาวญี่ปุ่นทั่วไป จนกระทั่งเขาสามารถสอบโรงเรียนเตรียมทหารของญี่ปุ่น และได้ไปประจำการในกองพันทหารราบที่ 57 ของกองทัพจักรวรรดิจนได้เลื่อนขั้นเป็นจ่า
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ปลดประจำการด้วยสาเหตุบางอย่าง และเขาก็ผันตัวเองไปเป็นคุณครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง
เมื่อถึงปี ค.ศ. 1930 เขาสอบผ่านเข้ารับราชการตำรวจ และได้ไปประจำการที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งถูกปกครองโดยจักรวรรดิญี่ปุ่นในขณะนั้น
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองในมหาสมุทธแปซิฟิกเริ่มขึ้น ฮิโรเอดะ ก็ได้รับมอบหมายให้ควบคุมดูแลกองเรือลาดตระเวนกองหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยทหารสัญชาติไต้หวันราว 2,000 คน
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1943 ฮิโรเอดะและทหารของเขาถูกส่งไปประจำการที่เกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อต่อสู้กับกองกำลังจากฝ่ายสัมพันธมิตรที่พยายามยึดหมู่เกาะแปซิฟิกคืนจากกองทัพญี่ปุ่น
อย่างที่ทราบกันดีว่า ทันทีที่กองทัพอเมริกาเข้าร่วมสงคราม โฉมหน้าของสงครามก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป กองทัพญี่ปุ่นที่เคยยิ่งใหญ่ในช่วงต้นสงคราม ก็ค่อยๆ ถูกตีจนถอยร่นจนแทบหลังชนฝา
และในปี ค.ศ. 1945 กองทัพอเมริกาได้เข้าประชิดกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ กองทัพญี่ปุ่นไม่มีทางถอยอีกต่อไปแล้ว
เหล่าผู้บังคับบัญชาของก็ได้ออกคำสั่งให้ ฮิโรเอดะ สั่งการให้ทหารในสังกัดใช้หอกติดปลายระเบิด แล้วใช้ยุทธวิธีการกามิกาเซ่หรือการพลีชีพ เข้าไปจัดการกับรถถังของอเมริกาที่กำลังบุกเข้ามาเรื่อยๆ
หากเป็นผู้บังคับบัญชาคนอื่นคงรับคำสั่งอย่างไม่ลังเล แต่ฮิโรเอดะกลับคิดว่าการทำเช่นนั้นไร้ประโยชน์ เกียรติยศแม้จะสำคัญ แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของเหล่าทหาร เขาและผู้ช่วยชาวไต้หวัน “หลิวเว่ยเทียน” จึงแอบทำการเจรจากับกองทหารอเมริกันอย่างลับๆ
ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 กุมภาพันธ์นั้นเอง ฮิโรเอดะได้สั่งให้ทหารในบังคัญบัญชาของเขา ยอมจำนนแก่กองทัพอเมริกา พร้อมกับกล่าวว่า
“พวกนายเป็นชาวไต้หวัน ฉันรู้ว่าพวกนายมีภรรยา มีครอบครัว มีญาติพี่น้องรออยู่ที่บ้าน โชคร้ายที่เราคงไม่ได้กลับไปด้วยกัน แต่พวกนายควรรอดชีวิตกลับไป ฉันเป็นคนญี่ปุ่น ฉะนั้นควรเป็นฉันคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้”
สิ้นเสียงฮิโรเอดะก็หยิบปืนขึ้นมาลั่นไกใส่ศีรษะของตนเอง เขาเสียชีวิตในวัย 40 ปี เพื่อแลกกับการกลับบ้านโดยปลอดภัยของทหารชาวไต้หวันในกองของเขา
ในปี ค.ศ. 1976 หลิวเว่ยเทียนที่รอดชีวิตกลับไปยังบ้านเกิด ได้จัดพิธีรำลึกถึงนายทหารผู้เสียสละท่านนี้ และได้อัญเชิญชื่อของ ฮิโรเอดะ ขึ้นไปอยู่ในศาลเจ้าศักดิ์สิทธ์บนภูเขาหัวสิงโตในไต้หวัน และเขาก็ได้จัดพิธีดังกล่าวทุกปี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 2013
ซึ่งแม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้วลูกชายของหลิวเว่ยเทียนก็ยังคงติดต่อกับครอบครัวและญาติๆ ของฮิโรเอดะจนถึงทุกวันนี้
ช่างเป็นวีรกรรมอันน่ายกย่องจริงๆ สำหรับนายทหารท่านนี้ที่สามารถก้าวข้ามทัศนคติและความเชื่อของสังคม และเล็งเห็นถึงความสำคัญของชีวิต แม้ตัวของเขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เชื่อว่าสิ่งที่เขาทำจะยังคงถูกเล่าขานไปอีกนานอย่างแน่นอน
ที่มา revolvy, Otōemon_Hiroeda
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.