ตั้งแต่ไหนแต่ไรเรามักจะถูกคุณครูสั่งการบ้านให้เอาไปทำต่อที่บ้าน เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาและเป็นการวัดด้วยว่าสมองของเราสามารถซึมซับความรู้ได้มากเท่าไหร่
แต่ต้องยอมรับเลยว่าการบ้านทุกวันนี้มันชักจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนบางคนทำกันแทบไม่ทัน (หรือบางทีคุณครูอาจจะคิดว่านั่นคือการฝึกความทรหดก่อนการออกไปทำงานจริงๆ หรือเปล่า!?)
ด้วยความที่มองว่าการทำบ้านอาจไม่ได้วัดสิ่งต่างๆ หรือการบ้านที่มากเกินไปจะทำให้เด็กซึ่งเป็นวัยที่น่าจะะเรียนรู้ได้อย่างสนุกๆ กว่ามานั่งทำการบ้าน
คุณครู Kate Barker ครูใหญ่ของโรงเรียนประถม Cherry Park Elementary ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา เลยออกสั่งยกเลิกการทำการบ้านกับเด็กๆ ให้หมดซะเลย
ในเมื่อมีกฎออกมาว่าห้ามไม่ให้เด็กๆ ทำการบ้าน แต่โรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งเฉย เพราะพวกเขาสนับสนุนให้เด็กๆ กลับไปทำกิจกรรมที่บ้านมากขึ้น ทำให้เด็กๆ มีความสุขกับการมาเรียนมากขึ้่น
กิจกรรมที่ทางโรงเรียนพยายามสนุบสนุนนั้นต้องได้รับความร่วมมือกับผู้ปกครองด้วย เช่นการกลับไปเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ เล่นเกมกระดาน อ่านหนังสือและทำกิจกรรมต่างๆ เท่าที่จะเป็นไปได้
ด้านครูใหญ่ Barker ได้เผยกับสื่อว่าหลังจากที่ประกาศนโยบายนี้ออกไปให้เด็กๆ ทราบ ทุกคนก็ส่งเสียงเฮกันลั่นโรงเรียน
เธอได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่าเด็กๆ ราว 75% ที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นมีฐานะที่สูงกว่าเกณฑ์ยากจนมาก และเด็กๆ หลายคนพูดด้วยภาษาที่แตกต่างกันถึง 30 ภาษา การบ้านจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเขาอีกต่อไป
“เราพบว่าการบ้านเพิ่มความไม่เสมอภาคกัน มันเป็นอุปสรรคต่อนักเรียนของเราที่ต้องการกาการส่องเสริมมากที่สุด เมื่อพวกเขากลับบ้านไปพร้อมกับการบ้าน มันไม่ได้เป็นการปฏิสัมพันธ์เชิงบวกสำหรับผู้ปกครองและเด็กเลย” นาง Barker กล่าว
ทั้งนี้ทางโรงเรียนจะคอยติดตามและวัดผลของนโยบายใหม่ เพื่อดูว่ามันได้ผลหรือไม่ หากไม่ได้ผลพวกเขาก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนมันไปในรูปแบบอื่นๆ ในภายหลัง แต่ยังคงตั้งมั่นที่จะไม่นำเอาการบ้านกลับมาให้เด็กๆ แน่นอน
นี่เป็นนิมิตรหมายอันดีมาก!!
ที่มา metro
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.