ประเทศฟินแลนด์ เป็นประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในยุโรปตอนบน มีประชากรประมาณ 5 ล้านคน หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า ที่นี่เป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นักเรียนที่มีคุณภาพที่สุดในโลก” ประเมินจากนักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับของนักเรียนจำนวน 65 ประเทศ
และอะไรกันที่ทำให้การศึกษาของพวกเขาดีเยี่ยมขนาดนั้น เราลองไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า…
1. ช่วงเวลาก่อนเข้าเรียน
เด็กๆ ที่ฟินแลนด์นั้น จะเข้าโรงเรียนเมื่ออายุ 6-7 ปี และก่อนหน้านั้นก็จะให้เด็กได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่พ่อแม่จะเป็นคนดูแลเด็กๆ เอง ทั้งให้ความรู้ เป็นเพื่อนเล่น และความรัก เพราะเขาเชื่อว่าทั้งความรู้และความรักนั้นต่างก็สำคัญสำหรับเด็กในช่วงวัยนี้
ถ้าเทียบกับบ้านเรานั้นเด็กในช่วงวัยนี้จะต้องเข้าโรงเรียนชั้นอนุบาล (ตั้งแต่ 3 ขวบ ถึง 6 ขวบ) และที่โรงเรียนก็จะมีการสอนให้อยู่ร่วมกันกับเด็กคนอื่นๆ และห้ามไม่ให้พ่อแม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเรียนการสอนแต่อย่างใด เด็กจะมีโอกาสเจอพ่อแม่ก็ต่อเมื่อหลังเลิกเรียนเท่านั้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตามที่ประเทศฟินแลนด์นั้นก็มีโรงเรียนที่คล้ายอนุบาลเหมือนกันนะ ไว้สำหรับพ่อแม่ที่ต้องออกไปทำงาน โดยสถานที่นี้เรียกว่า Daycare ที่จะเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็ก มีคนคอยดูแลพร้อมกับสนามเด็กเล่นให้เล่นทั้งวัน และเท่านั้นยังไม่พอที่ Daycare ยังอนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าไปเป็นเพื่อนเล่นได้ตลอดเวลาด้วย
2. เปิดโอกาสให้เด็กๆ ทำในสิ่งที่สนใจ
เด็กๆ ในวัยประถมฯ ที่ฟินแลนด์จะมีชั่วโมงวันละไม่เกิน 5 ชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือก็จะปล่อยให้ไปทำกิจกรรมที่สนใจ และการเรียนที่มากเกินไปนั้นจะทำให้เด็กๆ เกิดความเครียด และความรู้สึกแย่ต่อการเรียน
3. การดูแลนักเรียน
ห้องเรียนของฟินแลนด์นั้นจะมีนักเรียนห้องละไม่เกิน 20 คน ยิ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงก็จะยิ่งจำกัดจำนวนเด็กในห้องน้อยลงไปอีก เพราะที่นี่เน้นการพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ และการดำรงชีวิตของนักเรียน
เด็กแต่ละคนนั้นจะมีนิสัยและศักยภาพที่แตกต่างกัน การดูแลแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
4. การบริหารโรงเรียน
ที่นี่จะมีการจ้างผู้อำนวยการมาบริหารโรงเรียน และมีคณะกรรมการโรงเรียนคอยดูแลอีกทีหนึ่ง หากมีผลงานไม่ดีก็สามารถเชิญออกไปได้เลย ส่วนการคัดเลือกนั้นก็จะทำการคัดเลือกคนที่มีความสามารถในการบริหารจริงๆ ทำให้โรงเรียนแต่ละโรงเรียนนั้นมีคุณภาพ
5. คุณครู
คุณครูที่นี่เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ได้รับการยอมรับไม่ต่างจากแพทย์ หรือผู้พิพากษาในบ้านเรา พวกเขาไม่ได้ทำแค่เพียงวัดผลการสอนจากการทดสอบมาตรฐานที่รัฐจัดไว้ให้เท่านั้น แต่ยังสามารถจัดระบบการเรียนการสอนได้เอง เท่านั้นยังไม่พอ การสอนแบบ 1 ต่อ 1 กับนักเรียนได้อีกด้วย ที่ไว้ใจแบบนี้ก็เพราะคุณครูที่นี่นั้นจะต้องมีคุณวุฒิขั้นต่ำถึงระดับปริญญาโทเลยล่ะ
ถ้าเทียบกันกับบ้านของเราแล้วมีอะไรที่แตกต่างกันบ้างนะ อิอิ
ที่มา : adviceforyou, attn, smithsonian
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.