ปรากฏการณ์โลกร้อนนั้นส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสัตว์และมนุษย์ และเจ้าปลาทูน่าน้ำเงินตัวนี้เองก็ไม่วายที่จะโดนผลกระทบจากโลกร้อนจนถึงแก่ชีวิต…
เรื่องมีอยู่ว่าชายหนุ่ม Kev Brady และเพื่อนๆ ได้ออกไปพายเรือพายเล่นที่บริเวณปากแม่น้ำ Severn ในหมู่บ้าน Minsterworth เมือง Glos ประเทศอังกฤษ จู่ๆ เขาก็ได้พบกับซากปลาขนาดยักษ์ลอยตุ๊บป่องอยู่
พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันคือซากปลาทูน่าที่มีความยาวมากถึง 2.1 เมตรเลยทีเดียว คาดว่ามันคงลอยมาจากทะเลที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร
คุณ Brady ได้ทำการถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้และนำไปโพสต์ลงโซเชียล ทำให้มีผู้สนใจมากมาย และในนั้นก็มีเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้วย โดยพวกเขาได้ให้ความเห็นว่าเจ้าปลาทูน่าตัวนี้น่าจะว่ายตามฝูงแซลมอนมายังแหล่งน้ำจืด
แต่เนื่องจากว่าปลาทูน่านั้นไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำจืดได้เหมือนกับแซลมอน จึงทำให้มันเกิดอาการน็อคและตายไปในที่สุด
แต่ก็น่าแปลกใจเหมือนกันเพราะโดยปกติแล้วปลาแซลมอนนั้นเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในเขตน้ำอุ่น แต่แหล่งน้ำจืดนั้นจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าน้ำทะเล เพราะฉะนั้นปลาทูน่าจะรู้ถึงความแตกต่างของอุณหภูมิและไม่ว่ายเข้ามา
แต่ภายหลังเนื่องจากปรากฏการณ์โลกร้อนทำให้อุณหภูมิของแหล่งน้ำจืดเพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้มันเข้าใจผิดและว่ายเข้ามาในเขตน้ำจืดอย่างไม่ลังเล Dai Francis เจ้าหน้าที่จากศูนย์ดูแลสัตว์น้ำในแม่น้ำ Severn กล่าว
โดยเจ้าซากของปลานี้พอสังเกตดีๆ ก็พบว่าเป็นสายพันธุ์ครีบน้ำเงินเหนือที่สุดแสนจะหายากและมีราคาแพงแสนแพง แถมยังมีขนาดตัวที่ใหญ่แบบสุดๆ เมื่อโตเต็มวัยมันจะมีน้ำหนักมากถึง 650 กิโลกรัมเลยนะ
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ นั้นเป็นปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับปลาทูน่าชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น เป็นปลาที่ชาวญี่ปุ่นทำการประมงมานานกว่า 5,000 ปี
แถมยังเคยมีการประมูลขายเจ้าปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ตลาดปลาในราคาหลักล้านบาทเลยทีเดียว
ต้องขอบอกเลยว่าของแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ และสาเหตุก็เป็นเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง เพราะฉะนั้นเราจึงควรหันมาใส่ใจกับปัญหาโลกร้อนกันดีกว่า เพื่อตัวของเราเองและเพื่อนร่วมโลกทั้งหลายจะได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ไปอีกนานๆ ยังไงล่ะ ^^
ที่มา : thesun
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.