นักวิจัยค้นพบ ‘ต้นตอยีนส์แห่งความขี้เกียจ’ ที่สามารถส่งต่อทางพันธุกรรม ได้อีกต่างหาก!?

หลายๆ คนอาจจะเคยคิดตัดพ้อตัวเองว่า ‘ทำไมเราถึงขี้เกียจเหลือเกินนน??’ วันๆ แทบไม่อยากจะทำอะไรเลย สิ่งที่มีความสุขที่สุดในชีวิตก็คือการอยู่เฉยๆ เปื่อยๆ จนหมดวันไป ซึ่งบางทีก็โดนพ่อแม่มาดุบ้างว่า ‘ทำไมวันๆ ถึงไม่ทำอะไรเลย??’

แต่ล่าสุดก็มีนักวิทยาศาสตร์จากประเทศจีนและสกอตแลนด์ ที่ได้วิจัยว่าเจ้า ‘ความขี้เกียจ’ น่ะ สามารถส่งต่อทางกรรมพันธุ์หรือยีนส์ได้ด้วยนะเออ (เอ้อออ แบบนี้ก็เถียงสวนพ่อแม่ได้ดิว่า หนูขี้เกียจก็มาจากพ่อแม่นั่นแหละ!! ฮร่าาา ซึ่งอาจจะโดนเขกกบาลเอาได้นะจ๊ะ -*-)

 

ความขี้เกียจสามารถส่งผ่านทางยีนส์ได้!?

lazy-cat

 

ซึ่งเหล่านักวิจัยตีพิมพ์ผลงานของพวกเขาลงในวารสารวิทยาศาสตร์ PLOS Genetics โดยมีเป้าหมายที่จะคิดค้นยาที่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขี้เกียจออกกำลังกายจนเกินไปในอนาคต เพื่อเพิ่มสุขภาพที่ดีให้กับพวกเขา

การทดลองนี้ทดสอบกับหนู และคนไข้ชาวจีนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญกว่า 400 คน พบว่า 2 ใน 400 คนนั้นมียีนส์ที่เรียกว่า SLC35D3 อยู่

ยีนส์ SLC35D3 เป็นยีนส์กลายพันธุ์ชนิดหนึ่ง และนี่แหละคือยีนส์ขี้เกียจ ที่ทำให้ผู้มียีนส์ตัวนี้มีความสดชื่นและแอคทีฟน้อยกว่าคนปกติ ซึ่งนอกจากคนแล้ว เหล่าหนูก็มียีนส์ชนิดนี้เช่นกัน!!!

แถมยีนส์ตัวนี้ยังสามารถส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นได้อีกด้วย!!

 

ยีนส์ขี้เกียจ!?

1fd8edac-8027-46da-b052-0ce9ff022a1b

 

ศาสตราจารย์ Wei Li แห่ง Institute of Genetics and Developmental Biology (IGDB) ในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า ‘เหล่าหนูที่มียีนส์ชนิดนี้อยู่จะขี้เกียจกว่าตัวอื่นๆ กล่าวคือมันจะเดินในวงล้อสำหรับวิ่งเพียง 1 ใน 3 ของหนูปกติเท่านั้น แถมเวลาไปวิ่งเล่นก็จะเดินช้าๆ ไม่เหมือนหนูตัวอื่นๆ ที่มักจะวิ่งกัน’

‘นอกจากจะอ้วนขึ้นแล้ว ก็ยังมีอาการผิดปกติต่างๆ เหมือนคนอีกด้วยทั้งโรคเบาหวาน ความดันสูงและดรคอ้วน วิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือการออกกำลังกาย แต่พวกคนไข้ที่มียีนส์นี้ (รวมถึงหนูที่นำมาทดสอบ) จะมีปัญหาในเรื่องการออกกำลังกายหรือแม้แต่การขยับตัวมาก แถมยีนส์นี้ยังสามารถส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นด้วยล่ะเมื่อมันก่อตัวขึ้น’ เขากล่าวต่อ

วิธีแก้ไขที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ทำกับหนูที่มีอาการนี้ก็คือ การใช้ยาที่ไปกระตุ้นส่วนของ Dopamine Receptors หรือตัวรับสารโดปามีน ทำให้เหล่าหนูรู้สึกตื่นตัวและกระฉับกระเฉงมากขึ้น เริ่มขยับมากกว่าเดิม น้ำหนักจึงค่อยๆ ลดเป็นลำดับ

 

cat-cat_guide-a_relaxed_lazy_cat_stretched_out_on_the_sofa

 

John Speakman ศาสตราจารย์ผู้ร่วมทำวิจัยแห่ง University of Aberdeen ก็ได้กล่าวเสริมเช่นกันว่า ‘ถึงแม้ว่าจะมีอาการนี้ในคนไข้โรคอ้วน 1 ใน 200 คน แต่ถ้าเทียบกับอัตราส่วนของคนทั้งโลกก็ถือว่าเยอะเหมือนกัน’

‘สุดท้ายแล้วถ้าเราสามารถวิจัยเรื่องนี้ได้สำเร็จ และสามารถใช้ยากระตุ้น Dopamine Receptors ได้ล่ะก็ จะสามารถช่วยพวกเขาจากอาการนี้ได้เยอะเลยทีเดียว’ เขากล่าวปิด

 

ถึงอย่างไรก็ดี ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่เราจะขี้เกียจกันนะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆ อย่างน้อยก็อย่าเอางานนี้ไปเถียงว่าขี้เกียจมาจากพ่อแม่ล่ะ เดี๋ยวโดนเขกหัวแย่ ><

emo-135

 

ที่มา: IndependentRandom Learner

Comments

Leave a Reply