ถึงแม้ว่าลึกๆ แล้ว มนุษย์จะถูกออกแบบมาให้ขี้เกียจ ชอบความปลอดภัยและอะไรที่เรียบง่ายก็ตาม แต่บางครั้ง คนเราก็เสาะแสวงหาอะไรที่ท้าทายและอันตรายเหมือนกัน!!
สำหรับวันนี้เราก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปปีนเขากันสักหน่อย กับหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลกอย่างเขาหัวซาน (Mt. Hua Shan) แห่งอำเภอหวาอินเซี่ยน มณฑลซานซี ทางตะวันตกของประเทศจีนกัน!!
สำหรับเขาหัวซานนั้น ประกอบไปด้วย 5 ยอดเขา ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจีน และแม้ว่าตอนนี้จะมีกระเช้าลอยฟ้าให้บริการสำหรับผู้ที่อยากขึ้นไปแบบสบายๆ แล้วก็ตาม เส้นทางปีนเขานี้ก็ยังได้รับความนิยมจากผู้ชื่นชอบจากทั่วโลก
ยอดเขานี้ตั้งชื่อตามนักพรต Huang Lu Zi ที่อาศัยอยู่ตั้งแต่ช่วงก่อนคริสตศักราช
และถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบหนังจีนกำลังภายในกันล่ะก็ ยอดเขาแห่งนี้น่ะถูกเอ่ยถึงในหลายๆ เรื่องเลยทีเดียวนะเออ อย่างหนังดังในสมัยก่อนก็จะมี ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นี่แหละที่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่หลักของเรื่องเลย!!
สมัยก่อนเขาหัวซานนี้จะมีวัดของลัทธิเต๋าตั้งอยู่มากมาย ซึ่งยังคงเหลือให้เห็นกันมาถึงปัจจุบันถึงจะไม่มากเท่าแต่ก่อนก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้เลื่อมใสเดินทางแวะเวียนมาอยู่เสมอ ส่วนมากในปัจจุบันจะเป็นหนุ่มสาวที่มาพักผ่อนเสียมากกว่า (ว่ากันว่า ‘เล่าจื๊อ’ ผู้ก่อตั้งลัทธิเต๋าก็เคยพำนักอยู่ที่ยอดเขานี้ด้วยนะเออ!)
ภาพยอดเขาหัวซาน
ยอดที่สูงที่สุดคือยอดเขาทางใต้ (The South Peak หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Landing Wild Geese Peak) ที่มีความสูงกว่า 2,154.9 เมตร!!
เส้นทางนี้ถูกบุกเบิกในศตวรรษที่ 3-4 ช่วงรางวงศ์ถังเรืองอำนาจในประเทศจีน
แต่หลังจากราชวงศ์ล่มสลาย เส้นทางนี้ก็ไม่มีใครใช้อีกเพราะว่าไม่มีโครงการซ่อมบำรุง
ก่อนที่ปี 1949 จะมีกลุ่มนักปีนเขาไปบุกเบิกเส้นทางแห่งนี้อีกครั้ง และได้รับการบูรณะเต็มรูปแบบในปี 2000
กระเช้าลอยฟ้านั้นสร้างขนานไปตามเส้นทางปีนเขานี้ เพราะฉะนั้นใครที่กลัวเหนื่อยหรือกลัวความสูงมากๆ จนทำอะไรไม่ถูกล่ะก็ใช้กระเช้าลอยฟ้ากันได้เลย
ในอดีตเส้นทางปีนของยอดเขาทางทิศเหนือนั้นเป็นเส้นทางเดียวที่จะสามารถเข้าสู่อีก 4 ยอดที่เหลือได้
ซึ่งนักปีนเขาต้องปีนมาจนสุดเส้นทางก่อน เพื่อมาถึงจุดสันเขาที่เรียกว่า Cang Long Ling หรือเรียกกันอีกชื่อว่าสันเขามังกรเขียว
จากนั้นจะสามารถแยกไปทางเส้นทางทิศตะวันตก (ระยะทาง 2,038 เมตร) เส้นกลาง(ระยะทาง 2,042 เมตร) เส้นตะวันออก (ระยะทาง 2,100 เมตร) และเส้นทางใต้ (ระยะทาง 2,160 เมตร) ได้
จนกระทั่งในปี 1998 จึงมีการสร้างเส้นทางที่เริ่มจากยอดเขาทางทิศตะวันออก ซึ่งสามารถเดินไปได้ทุกๆ ยอดเขาในที่สุด
ยอดเขาแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาในยุคก่อนอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นสถานที่แสวงบุญของทั้งนักพรตนิกายเต๋า พระสงฆ์ในศาสนาพุทธ รวมถึงศาสนาอื่นๆ
เพราะสมัยก่อนยังไม่มีเส้นทางชัดเจน จึงมีเฉพาะผู้ที่อดทน ตั่งมั่น และมีจิตใจเข้มแข็งเท่านั้นถึงจะสามารถ ‘หาทาง’ ขึ้นไปจนได้
ในช่วงปี 1980 ก็มีนักศึกษาชาวจีนหลายกลุ่มมาทดสอบจิตใจและพละกำลังของพวกเขาโดยการปีนขึ้นยอดเขาเหล่านี้
และพวกเขาก็พบว่าเป็นยอดเขาที่อันตรายเป็นอย่างมาก ด้วยเส้นทางที่แคบและลาดชันมากมาย
จนกระทั่งเส้นทางนี้ถูกพัฒนาในช่วงปี 1990 และทำให้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักปีนเขามากที่สุด!!!
ในปัจจุบันนี้ก็มีนักปีนเขาหลายรายที่ปีนกันในตอนกลางคืน เพื่อจะได้ไปถึงยอดเขาฝั่งตะวันออกได้ในช่วงเช้ามืด และดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน
สำหรับตอนนี้ก็มีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ทั้งโรงแรมและโฮสเทลต่างๆ ที่มาตั้งอยู่แถวนี้
และในด้านความปลอดภัย ก็พัฒนาขึ้นมากกว่าสมัยก่อนเป็นอย่างมาก…
แต่กระนั้นสถานที่แห่งนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางปีนเขาที่อันตรายที่สุดในโลกอยู่ดี!!
เพื่อนๆ คนไหนที่มีโอกาสได้ไปล่ะก็ ไม่ควรพลาดกันเลยนะเออ (ถ้าไม่กลัวความสูงนะ -*-) หรือถ้าใครที่เคยไปมาแล้ว มาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ท่านอื่นๆ ได้บรรยากาศร่วมก็ดีไม่น้อยเลยน้าา
ที่มา: Design, TravelMthai, Panaromio, Megamisc
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.