หนุ่มอังกฤษโอดครวญ อดกิน ‘ฟิชแอนด์ชิปส์’ อาหารโปรด หลังถูกตั้งข้อหาเป็น ISIS ในซีเรีย

ข่าวคราวเกี่ยวกับกลุ่ม ISIS ก็มีมาได้สักพักแล้ว และเพื่อนๆ คงพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ากลุ่ม ISIS หรือ กลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย (Islamic State of Iraq and Syria) นั้น เปิดรับให้ผู้มีความสนใจจากทั่วโลกสามารถเข้าร่วมกับพวกเขาได้

Sajid Aslam หนุ่มมุสลิมชาวอังกฤษวัย 34 ปีคนนี้ก็เช่นกัน เขาเคยอาศัยอยู่ใน Walsall แถบ West Midlands ก่อนจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เขากลับคิดถึงบ้านและมีอาการโฮมซิคสุดๆ

แต่เขาก็กลับไม่ได้เพราะตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่ทางการอังกฤษต้องการตัวมากที่สุดไปเสียแล้ว!!

Sajid Aslam

ล่าสุดเขาเกิดอาการจิตตกเนื่องจากการคิดถึงบ้านอย่างหนัก โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่น ‘Fish and Chips’ หรือปลาทอดและเฟรนฟรายส์ อาหารยอดฮิตของเมืองผู้ดีประเทศอังกฤษนั่นแหละ

เขาส่งอีเมล์หา Express and Star หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่เขาเคยอาศัยอยู่เป็นประจำ ซึ่งหนึ่งในจดหมายได้เขียนระบุไว้ว่า

‘Walsall นั้นมีร้านปลาทอดและมันฝรั่งอร่อยๆ มากมาย ผมคิดถึงจริงๆ ทั้งอาหาร และ Walsall เมืองที่โคตะระน่าเบื่อและไม่เคยมีอะไรตื่นเต้นเกิดขึ้นเลย’ 

‘ผู้ก่อการร้าย ISIS มีชีวิตแบบนี้หรือ?’ เขาโพสต์ภาพพร้อมกับเกมของเขา

ไม่ใช่แค่ฉบับเดียว เพราะต่อมาก็ส่งอีกฉบับซึ่งเขียนว่า ‘ถึงแม้จะผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว ผมก็ยังมีอาการคิดถึงบ้านอยู่มากมายจริงๆ ผมอยู่ที่นี่ผมไม่มีชีวิตชีวาเลย ผมไม่เคยมีความสุขอีกเลยเช่นกัน ผมมีทั้งอาการซึมเศร้า ผมมีอยู่สองทางเลือกก็คือซึมเศร้า (ดีที่สุด) ส่วนแย่ที่สุดคงเป็นการฆ่าตัวตาย…’ 

ในการเข้าร่วม ISIS ของเขานั้นทำให้ผู้อื่นตำอยู่ในสถานการณ์ลำบากด้วยเช่นกัน อย่าง Lorna Moore ภรรยาวัย 33 ปีของเขาก็ต้องโทษจำคุก 2 ปี เพราะไม่บอกทางการว่าสามีของเธอมีแนวโน้มจะไปเข้าร่วมกับ ISIS

และผู้ให้ความช่วยเหลือ ช่างซ่อมทั่วไป Ayman Shaukat ผู้หาหนทางให้ Aslam (และคนอื่นๆ) เข้าไปยังอาณาเขตของ ISIS สำเร็จนั้น ต้องโทษจำคุก 10 ปีเต็ม

Lorna Moore

สำหรับตอนนี้ Aslam อ้างว่าตนทำหน้าที่คุณครูสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ในโรงเรียนที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศตุรกี ซึ่งเขาก็ยืนยันในความตั้งใจจริงของเขาเช่นกัน และปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ทางการอังกฤษตั้งขึ้น

เขาระบุว่า ‘ผมเดินทางออกจากตุรกีไปยังพื้นที่สงครามในซีเรียเพื่อช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และก่อนเดินทางผมก็ไม่ได้บอกภรรยาเอาไว้ด้วย เพราะเกรงว่าเธอจะไม่ให้ไป เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นจัดอยู่ในโซนอันตรายมาก’

‘ผมเข้าไปยังซีเรียเพื่อทำอยู่สองอย่าง นั่นก็คือช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย ผู้บาดเจ็บ และช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถอพยพออกจากประเทศไปได้ แต่หน่วยงานของทางภาครัฐกลับกลั่นแกล้งผมและหาว่าผมเป็นผู้ก่อการร้ายซะงั้น’

เนื้อหาจากข้อความของเขาซึ่งพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าเขาทำแบบนั้นจริงๆ

ถึงแม้ว่าเรื่องประเด็นของเขากับทางการอังกฤษต่างฝ่ายต่างก็โต้กันไปมา หาข้อสรุปยังไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ คือเขาคงไม่ได้กินเมนูโปรดอีกแล้วล่ะ…!!

ที่มา: Metro