เรื่องราวของเจ้าหนูน้อยที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย (หรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) และต้องเดินทางไป-กลับเป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ระหว่างโรงเรียนและโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาและเรียนในเวลาเดียวกัน
Shi Luyao หนุ่มน้อยวัย 11 ปี ได้รับการตรวจพบว่าเป็นโรคลูคีเมียเมื่อปี 2013 ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากพอสมควรในทำคีโมเพื่อทำการรักษา และต้องได้รับการตรวจกระดูกสันหลังอย่างละเอียด
ในเรื่องของการรักษานั้นเจ้าหนุ่มน้อยได้รับการช่วยเหลือจากประกันภัยสังคมเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เป็นเพราะว่าเขาต้องย้ายตามคุณพ่อจากเมืองเกิด Guizhou ไปทำงานที่เมือง Anhui (หลังจากที่แม่ทิ้งไปเมื่อตอนเขาอายุได้เพียง 2 ขวบ)
และด้วยเหตุนี้เองทำให้คุณพ่อของหนุ่มน้อย Luyao นั้นต้องพยายามหาเงินทุกวิถีทาง กว่า 1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่ารักษาส่วนต่างที่ประกันไม่ได้จ่ายให้
การหาเงินระดมทุนนั้นเองก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ในประเทศจีนนั้นการขอเรี่ยไรเงินเพื่อนำไปรักษาโรคมะเร็งนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก (เอาจริงๆ ก็ยากหมดเกือบทุกประเทศแหละนะ ถ้าเราเกิดมาแล้วมีสุขภาพที่ย่ำแย่ แต่ช่วงหลังมีเว็บระดมทุนพวกนี้ในโลกฝั่งตะวันตกเยอะกว่าทางฝั่งเอเชียนั่นเอง)
เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ คุณพ่อของหนูน้อย Luyao ได้ทำการสวมใส่หน้ากากม้าและให้คนมาขี่หลังเพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชาย
และเมื่อสองปีก่อนเขาก็ได้ไปคุกเข่าอยู่หน้าบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งใน Sichuan ร่วมกับกลุ่มนักเรียนที่เป็นเพื่อนของลูกชายเพื่อขอยืมเงินจากผู้อำนวยการไปใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล
และในที่สุดการรักษาก็เริ่มขึ้น Luyao ต้องย้ายกลับไปอยู่ในเมือง Guizhou ที่เป็นบ้านเกิด เพื่อรับสิทธิ์ในการรักษาเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่ผ่านมา และอาการของหนูน้อยก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากว่าหลังจากที่ทำการคีโมเสร็จเรียบร้อยทำให้เจ้าหนู Luyao ต้องเดินทางไปยังเมือง Kunming ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจากเมืองที่เขาอาศัยอยู่ถึง 400 กิโลเมตรในทุกๆ วัน เพื่อทำการตรวจความผิดปกติในกระดูกสันหลังของเขาอย่างละเอียดอีกหลายครั้งเพื่อตรวจดูเชื้อมะเร็งร้ายว่ายังคงหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่
เขาต้องนั่งรถบัสไปลงที่เมือง Liupanshui ก่อนจะไปเปลี่ยนเป็นรถไฟเพื่อเข้าไปยังเมือง Kunming ด้วยตัวคนเดียว การเดินทางทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง หนุ่มน้อย Luyao เล่าว่าบางครั้งเขาก็ร้องไห้ออกมาเพราะกลัวที่จะต้องเดินทางเพียงลำพัง
ซึ่งหลังจากการทำการตรวจกระดูกสันหลังอย่างละเอียดแล้วจะได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ฉะนั้นคุณหมอจึงแนะนำว่าควรจะต้องพักฟื้นก่อนเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่เจ้าหนู Luyao กลับปฏิเสธและรีบกลับไปยังบ้านของเขาให้เร็วที่สุดเพื่อไปเข้าเรียนให้ทัน
“ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่ากี่ครั้งแล้วที่ผมได้นั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สถานีรถไฟ” หนูน้อย Luyao กล่าวทั้งน้ำตา
และด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็ทำให้เขาสามารถมาเข้าเรียนได้ทันเวลาทุกครั้ง แต่พอย้อนกลับไปในช่วงที่เข้ารับการคีโมนั้นหนุ่มน้อยเกือบที่จะต้องออกจากโรงเรียนอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะร่ำเรียนต่อไป และในที่สุดเขาก็ก้าวผ่านมันมาได้
โดยทุกครั้งที่จำเป็นจะต้องขาดเรียนเขาก็จะถามเพื่อนๆ ถึงบทเรียนที่คุณครูสอนไปในคาบที่แล้ว และก็ลองทำการบ้านเองทุกครั้งเพื่อให้ตัวเองได้เข้าใจถึงบทเรียน และเพื่อนๆ ก็ให้ความช่วยเหลือแก่เขาเป็นอย่างดี
ถึงจะป่วยหนักแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมแพ้ต่อการเรียน ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ เลยนะเนี่ย ขอให้สู้ต่อไปนะเจ้าหนู ^^
ที่มา : shanghaiist
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.