สื่อนอกรายงาน Great Barrier Reef แนวปะการังใหญ่ที่สุดในโลก แทบจะตายหมดแล้ว

อย่างที่เราได้เคยเห็นผ่านการ์ตูนและสารคดีมาแล้วมากมาย ว่าแนวปะการังตามพื้นที่ต่างๆ ในทะเล นอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังช่วยสร้างระบบนิเวศและเป็นที่อยู่อาศัยของปลาตัวเล็กตัวน้อยได้ด้วย

ล่าสุด#เหมียวฟิ้นมีข่าวเศร้ามารายงานให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน เพราะเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Unilad ได้รานงานว่าแนวปะกางรังเก่าแก่ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ตายลงแล้วหลังจากเป็นที่อยู่อาศัยของปลามานานกว่า 25 ล้านปี

 

1

 

ตามรายงานของนักเขียนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างนาย Rowan Jacobsen บอกว่าแนวปะการังแห่งนี้มีปลากว่า 1,625 สายพันธุ์ หอย 3,000 สายพันธุ์ และวาฬอีกกว่า 30 ชนิดอาศัยอยู่ที่นี่

แนวปะการังขนาดใหญ่นี้ค่อยๆ เปลี่ยนจากปะการังสีสันสวยงามกลายเป็นเพียงซากกระดูกสีขาว ที่เรียกว่าภาวะปะการังฟอกขาว อันเนื่องมาจากผลกระทบทางมลภาวะหลายอย่าง

 

2

 

ผลกระทบเหล่านี้ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างแนวปะการัง เป็นเพราะภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ตะไคร่น้ำจึงสร้างออกซิเจนมากเกินไป มันจึงกลายเป็นพิษที่เข้มข้นสูง

ปะการังจึงต้องสลัดเอาตะไคร่น้ำเหล่านั้นออกไปเพื่อความอยู่รอด และเมื่อไม่มีตะไคร่น้ำแล้ว ปะการังเองก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกระดูกสีขาวและอดอาหารตายไปในที่สุด

 

4

 

จากการเปิดเผยคำสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ Tim Flannery ระบุว่า “เรากลับมาเพื่อดูว่าแนวปะการังนั้นฟื้นฟูไปได้มากน้อยเพียงใด แต่แนวปะการังที่เราคิดว่าจะฟื้นฟูเมื่อหลายเดือนก่อน กลับตายไปเกือบหมด”

“ถ้าแนวปะการังนี้เป็นคน เขาก็กำลังอาการร่อแร่อยู่ในเครื่องช่วยชีวิตแล้วล่ะ”

 

ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ที่แนวปะการังแห่งนี้พากันเหี่ยวตายมาแล้วในปี 1998 และปี 2002 โชคดีที่ตอนนั้นอุณหภูมิลดลงได้ทันเวลา แนวปะการังจึงยังมีชีวิตอยู่ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่รอดจริงๆ

6

 

หากใครแยกไม่ออกระหว่างปะการังที่มีชีวิต ใกล้ตาย และตายไปแล้ว เรามีภาพเปรียบเทียบให้ดูด้วยนะ ด้านขวาสุดคือปะการังที่มีสุขภาพดี ตรงกลางจะเป็นปะการังที่ได้รับผลกระทบจะเริ่มเปลี่ยนสี และซ้ายสุดคือปะการังที่ตายไปแล้ว จะเห็นได้ว่ามันแทบไม่เหลือสีสันอะไรอีกเลย

5

 

ไม่รู้ว่าเหล่าปลาและสัตว์น้ำที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่นต้องระหกระเหินไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง

บางตัวจะเอาชีวิตรอดได้หรือเปล่านะ

emo-89

ที่มา unilad

Comments

Leave a Reply