ไม่มีใครอยากเป็นคนไร้บ้าน แต่ถ้าวันหนึ่งมีเหตุผลที่ทำให้เราต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรเหลือเลย เราก็คงหวังให้ใครสักคนยื่นมือมาช่วย และเราก็ควรตอบแทนสังคมด้วยเช่นกัน
เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่เคยเป็นคนไร้บ้านมาก่อน แต่เมื่อได้รับโอกาส เขาก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนสังคม และได้นำเรื่องราวมีค่านี้มาเล่าให้เราฟัง…
“ผมรู้ว่าการนอนใต้สะพานเป็นยังไง วัยผู้ใหญ่ของผมส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้าน บางครั้งมักยากที่จำให้คนอื่นเข้าใจว่าทำไม่เราต้องมาตกอยู่สภาพเเช่นนั้น
แต่จริงๆ แล้วการเป็นคนเร่ร่อนนั้นเป็นวงจรชีวิตที่ยากจะหลีกหนี และการที่ผู้คนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน พวกเขาต่างมีเหตุผลที่แตกต่างกัน
สำหรับผม การกลายเป็นคนไร้บ้านเริ่มขึ้นเมื่อผมอย่ากับภรรยา บวกกับการสภาพทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อย ส่งผลให้ผู้คนในวงกว้างได้รับผลกระทบรวมทั้งผมด้วย
เมื่อผมเป็นคนไร้บ้าน ในแต่ละวันผมใช้เวลากับการหาอาหารและการหาที่พักที่ปลอดภัย บางคืน ผมนอนข้างถังขยะซึ่งมันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของผม แต่บางครั้งผมก็ตื่นขึ้นมาเพื่อหาที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น
เวลาผ่านไปเป็นปี ทุกอย่างก็เริ่มอยู่ตัว ผมหมดหวังในชีวิตและไม่คิดว่าจะได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้แล้ว แต่แล้วผมก็มีความหวังขึ้นอีกครั้งเมื่อได้พบกับ Jay
Jay เป็นส่วนหนึ่งของ Catholic Charities Fort Worth (CCFW) หรือที่เรียกว่า SOS ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือคนไร้บ้าน
ผมไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรถ้า CCFW ไม่ได้มาเจอผม เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมรู้ว่ามีคนคอยช่วยเหลือ CCFW อยู่กับผมในทุกช่วงเวลา
และเพราะการช่วยจาก SOS และองค์กรท้องถิ่นอื่นๆ ผมจึงสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง จนในที่สุด ผมก็อพาร์ทเม้นเป็นของตัวเอง
ผมตัดสินใจที่จะเป็นอาสาสมัครเพื่อตอบแทนสังคม และวิธีที่ดีที่สุดที่ผมทำได้คือ ผมเปิดสนามหลังบ้านให้เป็นที่พักสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งปกติแล้วมันเป็นสนามฟุตบอล
ส่วนอื่นๆ ในอพาร์ทเม้นของผม ก็เป็นที่พักสำหรับคนยากไร้ด้วย การได้ทำความรู้จักกับคนยากไร้ที่มาอาศัยในอพาร์ทเม้นผม ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ดีๆ และมีความหมายอย่างมาก มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขในชีวิต
เมื่อผมมีโอกาส ผมก็ได้ทำสนามฟุตบอลเพื่อเด็กผู้ยากไร้ ผมมีความสุขกับการเป็นอาสาสมัคร เวลาเห็นเด็กมาเล่นบอลในสนาม มันเป็นภาพที่อบอุ่นใจ และผมชื่นใจทุกครั้งที่เห็นคนแปลกหน้ามารวมกันโดยมีเป้าหมายเดียวกัน
เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ที่ผมออกไปตามที่ต่างๆ ในเวลาคืน เพื่อตามหาคนที่ต้องการความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ เพราะผมมีบ้าน และผมรู้ว่าการอยู่อย่างคนไร้บ้านนั้นมันรู้สึกยังไง
มันเป็นเรื่องที่ดีที่ผมมีบ้านในวันนี้ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ผมตอบแทนสังคม และไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตผมด้วย แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดอย่างแท้จริงมันยากที่จะเข้าใจ จนกว่าคุณจะรู้ว่าไม่อยากสูญเสียไป
การทำงานกับผู้คนที่หลากหลายและได้ฟังเรื่องราวของพวกเรา มันทำให้ผมรู้ว่า จริงๆ แล้วเราทุกคนล้วนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างที่คิดไม่ถึงมาก่อน
ผมรู้จักรัก รู้จักให้และมีความเมตตาต่อผู้อื่น ทั้งหมดนี้มาจากประสบการณ์ตรงของผมเองที่คอยให้บริการและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนได้
ผมเคยเป็นคนจรจัด ไม่มีอะไรเลยมีแต่ความว่างเปล่า แต่วันนี้ผมเป็นส่วนหนึ่งที่ให้ความหวังกับคนที่หมดหวัง และเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับพวกเขา”
การให้นั้นยิ่งใหญ่เสมอ หยิบยื่นน้ำใจให้แก่กันและกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย
ที่มา aplus l catholiccharitiesfortworth
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.