เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพของกำแพงขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เพื่อเป็นการแบ่งชนชั้นและป้องกันไม่ให้ผู้ลี้ภัยมาตั้งรกรากใกล้ๆ กับพวกเขา
ตามรายงานบอกว่าชาวเมืองในมิวนิกได้รวมตัวกันเพื่อสร้างกำแพงขนาดความสูง 3.6 เมตร แถวย่านชานเมือง เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐได้อนุญาตให้เหล่าผู้ลี้ภัยวัยรุ่นกว่า 160 คนที่ไร้ผู้ดูแลย้ายเข้ามายังศูนย์พักพิง ห่างจากหมู่บ้านของชาวเยอรมันกลุ่มนี้ออกไปเพียง 100 เมตรเท่านั้น
ชาวเมืองได้ให้ความเห็นว่าที่พวกเขาต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่ากลัว “เสียงรบกวนและพฤติกรรมของผู้ลี้ภัย”
สถานที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งจะกลายเป็นที่พักของผู้ลี้ภัยในอนาคตอันใกล้
หลังจากที่มีการรายงานภาพและข่าวเกี่ยวกับกำแพงชนชั้นนี้ออกไป ทำให้เกิดการวิจารณ์ในวงกว้าง เพราะเนื่องจากขัดกับหลักการของนายกรัฐมนตรี Angela Merkel ที่อยากจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยต่างๆ
ด้านรัฐมนตรีกรมที่ดิน Guido Bucholtz ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “ผมรู้สึกขนลุกเลยเมื่อได้เห็นเจ้ากำแพงปีศาจนั่น นี่มันเป็นเหมือนโฆษณาชวนเชื่อที่ห่วยแตกมาก”
หนึ่งในเหตุขัดแย้งที่พวกเขาสร้างกำแพงขึ้นมาก็เพราะว่าพวกเขากลัวว่าราคาบ้านและที่ดินของพวกเขาจะดิ่งลงเหวถ้าหากไม่มีอะไรมากั้นกลุ่มผู้ลี้ภัยออกจากพวกเขา เพราะพวกเขาอาจจะอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือเป็นปีๆ เลยก็ได้
กำแพงดังกล่าวที่สร้างขึ้นมากั้นระหว่างกลุ่มคนในหมู่บ้าน และบ้านพักของกลุ่มผู้อพยพ
ดราม่าดังกล่าวยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับกำแพงเบอร์ลิน และนโยบายของโดนัลด์ ทรัปม์ ที่ต้องการสร้างกำแพงชายแดนระหว่างสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก ด้วยเช่นกัน
ล่าสุดได้มีการรายงานความคืบหน้าว่ากำแพงที่กำลังก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และชาวเมืองเองก็ไม่ได้สนใจว่ากำแพงจะออกมาสวยหรือคนอื่นๆ จะมองมันยังไง ขอเพียงมันสามารถกันเหล่าผู้ลี้ภัยออกจากพวกเขาเป็นอันใช้ได้
ภาพของกำแพงเบอร์ลินในอดีต
.
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.