หลายคนมักจะบอกตัวเองว่าจะลดน้ำหนักปีหน้าหรือเดือน แต่พอถึงเวลาก็เลื่อนออกไปอีก เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็พบความตั้งใจที่เคยพูดไว้ไม่เคยเกิดผลเลย เพราะไม่เคยลงมือทำจริงๆ สักที
ถ้าการเริ่มต้นมันยากมากลองหาแรงบันดาลจากคนที่ทำสำเร็จแล้วสักคนสิ อาจจะเป็น 1 ใน 12 คนนี้ก็ได้ เพราะพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้ว การลดน้ำหนักแม้ต้องใช้เวลาแต่มันก็คุ้มค่า
1. Kate ลดไป 54 กิโลกรัมใน 9 เดือน
Kate ไม่เคยคิดว่า ความอ้วนเป็นปัญหาร้ายแรง แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง โรคอ้วนก็เริ่มส่งผลต่อสุุขภาพของเธอ
เธอจึงเริ่มด้วยการลดอาหารในแต่มื้อ และในสัปดาห์แรกเธอลดไปได้ 8 กิโลฯ แต่เธอยังคงนับแคลอรี่กินและออกกำลังเป็นประจำทุกวัน จนลดไป 54 กิโล ในเวลา 9 เดือน
ปัจจุบัน Kate เป็นคนที่ขาดฟิตเนสไม่ได้ เธอออกกำลังเป็นเวลา 2 ชั่วโมงทุกวัน และเมื่อไม่นานเธอก็ประสบความสำเร็จได้เป็นครูสอนพละด้วย
2. ผู้หญิงคนนี้ลดน้ำหนักได้ 56 กิโลกรัมในเวลา 12 ปี
หญิงชาวออสเตรเลียลดน้ำหนักด้วยการเต้นซุมบ้าเป็นประจำ ในที่สุดก็สามารถลดไปถึง 56 กิโลกรัม ในเวลา 12 ปี แม้จะใช้เวลานานซักหน่อย แต่เธอบอกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคุ้มค่ามาก เธอไม่ใช่ผอมลง แต่ยังมีสุขภาพที่ดีด้วย
3. Vitali ลดไป 70 กิโลกรัมใน 3 ปี
Vitali วางระบบการลดน้ำหนักด้วยตัวเอง โดยเน้นทานอาหารให้ครบทุกหมู่ จะได้ไม่ขาดสารอาหาร การทานอาหารที่สมดุลนี้ เป็นการช่วยให้ไม่อยากทานอาหารที่อาจทำให้อ้วนได้
นอกจากนี้เขายังได้ออกำลังกายอย่างจริงจัง โดยการออกกำลังกายของเขานั้นมีไม่ต่ำกว่า 10,000 ขั้นตอนในแต่ละวันจนประสบความสำเร็จ
ตอนนี้เขาได้รับคำแนนะนำให้พัฒนาเป็นนักเพาะกายด้วย
4. Rachel ลดได้ 40 กิโลกรัมใน 9 เดือน
Rachel บอกว่า ไม่มีวิธีการลดน้ำหนักที่ตายตัวหรือเป็นระบบ คุณไม่สามารถลดน้ำหนักจากการนับแคลอรี่ กินอาหารเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่ออกกำลังกาย หากคุณยังเลียนแบบวิธีออกกำลังกายของคนอื่น
สำหรับ Rachel เธอลดความอ้วนด้วยกิจวัตรประจำวันง่ายๆ แต่เธอก็แนะนำว่า คุณควรหาครูฝึกดีสักคน แล้วออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน และต้องให้เวลากับมัน สักวันคุณจะพบกับความสำเร็จ
5. Regina ลดได้ 68 กิโลกรัมใน 3 ปี
Regina เริ่มด้วยการค่อยๆ ลดอาหารที่ทำให้อ้วน จากนั้นก็ดาวน์โหลดวิธีโอออกกำลังกาย และเริ่มออกกำลังกายทุกวัน ต่อมาเธอก็สมัครเข้าเป็นสมาชิกยิม และเข้ากลุ่มกับคนที่ลดความอ้วนด้วยกัน
นอกจากนี้เธอยังทานแต่อาหารที่เป็นประโยชน์ โดยในแต่ละวันนั้นเธอจะกินอาหาร 5 มื้อคือ เช้า เที่ยง เย็น และอีกสองมื้อเธอจะกินในเวลาที่ใกล้กัน
6. Pasquale ลดได้ 146 กิโลกรัมใน 3 ปี
เมื่อคุณหมอได้เตือนเขาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ Pasquale จึงได้เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง เขาเริ่มกินอาหารที่มีประโยชน์และไม่ทำให้อ้วน
และก่อนกินข้าวในแต่ละมื้อ เขาจะเดินไปร้านอาหารแทนการขับรถ ปัจจุบันเขาเดินไม่ต่ำกว่า 6 กิโลเมตรต่อวัน เขาไม่กินอาหารทาน และเลือกที่จะซื้อวัตถุดิบมาทำเอง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำให้อ้วน
เมื่อเขาลดได้ 89 กิโล เขาก็เข้าเป็นสมาชิกฟิตเนส เขายังคงวิ่งทุกวัน และออกกำลังกายมากขึ้น รวมทั้งการทานอาหารเพื่อสุขภาพด้วย
หนึ่งต่อมาเขาก็ลดได้เกือบ 60 กิโล โดยทั้งหมดนี้ Pasquale บอกว่า เขาอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกชายของเขา
7. Jill ลดได้ 88 กิโลกรัม ใน 4 ปี
Jill บอกว่า ก่อนที่จะตัดสินใจลดน้ำหนัก เธอมักจะไม่กินมื้อเช้า แต่จะกินช็อคโกแลต ชีส และขนมอื่นๆ ที่ไม่เป็นประโยชน์จำนวนมาก
แต่ปัจจุบันนี้เธอทานโจ๊ก ผลไม้ สลัด และจะกินมะเขือเทศเป็นอาหารจานด่วน และยังมีคลาสสอนลดน้ำหนักของตัวเองด้วย เธอบอกว่า “ตอนนี้ฉันกกำลังฝึกวิ่งมาราธอน ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีพลังมากกว่าดวงอาทิตย์ซะอีก”
8. Clare ลดไป 14 กิโลกรัมใน 6 เดือน
ตลอดเวลา 6 เดือน เธอออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะยกดัมเบล ดันพื้น กระโดดเชือก และวิ่งจ๊อกกิ้ง ตอนนี้เธอเป็นพรีเซนเตอร์รายการทีวี ที่โชว์หุ่นได้อย่างมั่นใจ
9. Johnathon ลดได้ 98 กิโลกรัมใน 3 ปี
หลังจากเป็นโรคอ้วนมาหลายปี Johnathon ก็ตัดสินใจที่เลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ และออกกำลังกายครูฝึกส่วนตัว และเมื่อลดได้ 34 กิโล เขาก็มีแฟน ทั้งคู่จึงเริ่มลดน้ำหนักด้วยกัน
ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังไปปั่นจักรยานด้วยกัน เดินป่าระยะไกลด้วย และการอยู่กับธรรมชาตินี้เอง ที่ทำให้ทั้งคู่ได้กินอาหารที่มีประโยชน์และไม่ทำให้อ้วน
10. Melissa ลดได้ 106 กิโลกรัม ใน 3 ปี
Melissa ลดน้ำหนักด้วยการเข้าร่วมการออกกำลังกายออนไลน์ เธอได้ฝึกทานอาหารในปริมาณที่พอ และฝึกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ในที่สุดเธอก็เลิกกินอาหารฟาสฟุ๊ดได้ และเริ่มกินอาหารธัญพืชแทนขนมปังขาวและพาสต้า
หลังจากนั้น 3 เดือน เธอก็เริ่มออกกำลังกาย เธอเริ่มด้วยการออกกำลังกาย 5 นาทีต่อวัน แล้วก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นชั่วโมงต่อวัน
11. Jade ลดได้ 50 กิโลกรัมใน 1 ปี
Jade ได้ลดน้ำหนักด้วยโปรแกรมที่เธอตั้งขึ้นมาเอง เธอทานผลไม้เป็นอาหารจานหลัก ส่วนของว่างก็จะทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ และเธอได้พยายามลดอาหารมื้อเย็นให้เหลือน้อยที่สุด
ซึ่งการกินอาหารแบบนี้ทำให้เธอสามารถลดแคลอรี่ไปครึ่งหนึ่ง จาก 3,000 แคลอรี่เหลือ 1,500 แคลอรี่เท่านั้น หลังจากทำเป็นประจำ 1 ปี ก็ลดได้ 50 กิโลฯ
ก่อนที่เธอจะตัดสินใจลดความอ้วน Jade เป็นคนที่เกียจเดินไหนมาไหนมาก แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ ก็ตาม เพราะทุกครั้งที่เดิน เธอก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย
แต่ตอนนี้ เวลาไปไหน ถ้าไม่ไกลมาก เธอก็จะเดิน และยังอาสาทำงานบ้านทุกอย่างด้วย
12. Lindsey ลดได้ 89 กิโลกรัมใน 2 ปี
เธอเริ่มต้นด้วยการลดอาหารประจำวันจาก 4,000 แคลอรี่เหลือ 700 แคลอรี่เท่านั้น ในขณะเดียวกัน เธอก็ออกกำลังกายเป็นจำทุกวัน
และเพียงไม่กี่เดือนที่เริ่มทำแบบนี้ น้ำเธอก็ลดลงอย่างเร็ว และภายใน 2 เธอก็ลดไปถึง 89 กิโลกรัมเลยทีเดียว
แล้วเพื่อนๆ ละคะ รออะไร? เริ่มเล่ยยยย
ที่มา brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.