เนเธอร์แลนด์ประสบวิกฤติหนัก ‘ขาดแคลนนักโทษ’ ถึงขั้นต้องยุบเรือนจำกว่า 19 แห่ง

ในขณะที่ประเทศฟิลิปินส์เพิ่งจะประสบปัญหานักโทษล้นคุกไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ทีผ่านมา จนต้องของบจากรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ขณะเดียวกันที่เนเธอร์แลนด์กลับประสบปัญหาที่ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็อยากจะให้เกิด นั่นคือ “ขาดแคลนนักโทษ”

เว็บไซต์ BBC ของต่างประเทศได้รายงานว่าในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรือนจำกว่า 19 แห่งต้องปิดตัวลง และยังมีอีกหลายแห่งที่เตรียมตัวปิดในปีถัดๆ ไป เนื่องจากมีนักโทษไม่เพียงพอให้กักขัง

นับตั้งแต่เมื่อปี 2005 นักโทษในเนเธอร์แลนด์มีจำนวนราวๆ 14,468 คน แต่พอถึงปี 2015 จำนวนกลับลดลงอย่างมากเหลือเพียง 8,245 คนเท่านั้น

เมื่อคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรทั้งหมด เหลือเพียงแค่ 57:100,000 คนเท่านั้น ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดของโลกประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้

เหตุที่เนเธอร์แลนด์ไม่ค่อยมีนักโทษหรือการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนอย่างในประเทศอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยหน่วยงานยุติธรรมและราชทัณฑ์ของเนเธอร์แลนด์ออกมาให้ความเห็นว่า เป็นเพราะการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดและปรับปรุงเป็นรายบุคคล แทนที่จะลงโทษอย่างเดียว

ซึ่งหากว่ากันตามจริงแล้ว ประเทศเนเธอร์แลนด์เองมักไม่ลงโทษผู้ต้องหาด้วยการจำคุกเป็นเวลานานๆ อย่างเดียว แต่จะลงโทษด้วยวิธีอื่น เช่นติดเครื่องส่งสัญญาณที่ผู้ต้องหา เพื่อดูพฤติกรรม หรือให้ทำงานเพื่อสังคม และบำบัดอาการทางจิต ความโกรธหรืออะไรก็แล้วแต่ที่อาจส่งผลให้เกิดการทำผิดซ้ำขึ้นอีก

นอกจากนี้ทางเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ยังมีวิธีการดูแลผู้ต้องหาในแบบที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ด้วย เพราะพวกเขาจะปรับให้ภายในเรือนจำมีความผ่อนคลาย มีห้องสมุด มีโรงยิม ห้องครัว

เพื่อให้นักโทษปรับตัวและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังจากที่ออกจาเรือนจำไปแล้ว ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยลดความเครียดและความกดดันของนักโทษได้จนรู้สึกกลับตัวกลับใจอีกครั้งหนึ่ง สอดคล้องกับอัตราการก่ออาชญากรรมในเนเธอร์แลนด์ที่ลดลงกว่าร้อยละ 25 ในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา

แต่ก็ได้มีการแก้ปัญหาไปบ้างแล้ว เพราะเรือนจำที่ถูกสั่งปิดนั้น บางแห่งถูกดัดแปลงให้กลายเป็นศูนย์ฝึกอาชีพและโรงแรมให้กับเหล่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ถูกเลิกจ้าง ได้มีอาชีพทำต่อไป

ส่วนเรือนจำบางแห่งก็ได้มีวิธีการแก้ปัญหาแบบอื่น เช่นนำเอานักโทษจากประเทศนอร์เวย์และเบลเยียมมาขังไว้ที่เรือนจำเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้มีงานทำต่อไป

ด้านนาง Angeline van Dijk ผู้อำนวยการเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ได้เผยถึงแนวคิดและความเปลี่ยนแปลงในระบบเรือนจำของเนเธอร์แลนด์ว่า “บางครั้งมันก็ดีกว่าที่เราจะให้พวกเขาทำงานของตัวเองไป อยู่กับครอบครัวของตัวเองและลงโทษพวกเขาในวิธีอื่นๆ”

“เรามีนักโทษที่ถูกจำคุกระยะสั้น และมีอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ลดลงในเนเธอร์แลนด์ นั่นจึงทำให้เรือนจำของพวกเราว่างเปล่า”

จะว่าไปแล้วก็แอบอิจฉาบ้านเมืองเขาเหมือนกัน

แต่ก็ใช่ว่าวิธีการแก้ปัญหาแบบชาวดัชจะสามารถใช้กับประเทศอื่นๆ ได้นะ

มันคงต้องแล้วแต่วัฒนธรรมและพฤติกรรมของคนด้วยล่ะ

ที่มา bbc