นับตั้งแต่ที่ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 จบลงเมื่อปี 2011 เหล่าแฟนๆ พ่อมดน้อยก็เฝ้าใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะมีภาคต่อ หรือมีอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพ่อมดแม่มดออกมาให้ได้ชมกันอีก
ในเมื่องยังมีแฟนๆ ทั่วโลกเรียกร้องขนาดนี้ ทาง Waner Bros. เองก็ขอกลับมาโกยเงิน เอ้ย! กลับมาสานฝันให้กับผู้ชมด้วยการนำหนังสือ Fantastic Beasts and Where to Find Them มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ให้เราได้ชมกัน
แต่ก่อนที่เราจะกลับเขาสู่โลกเวทย์มนต์ #เหมียวฟิ้นเลยเขียนบทความและข้อมูลต่างๆ ที่คุณควรรู้ ก่อนจะไปดูหนังกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปลุยกันเลย!!
1. เรื่องราวในหนังเรื่องนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นในอังกฤษเหมือนอยา่ง Harry Potter แต่จะเกิดขึ้นในฝั่งอเมริกา
2. ในอเมริกาไม่ได้เรียกผู้ที่ไร้เวทย์มนต์ว่า “Muggles” แต่เรียกว่า “No-maj”
สำหรับคำว่า No-maj ก็เป็นคำศัพท์ที่ย่อมาจาก No Magic (ไม่มีเวทย์มนต์)
3. เรื่องราวจะเล่าถึง Newt Scamander (รับบทโดย Eddie Redmayne) นักสัตว์วิเศษวิทยาที่ออกเดินทางไปทั่วโลก ศึกษาสัตว์วิเศษตามที่ต่างๆ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมารวบรวมและเขียนเป็นหนังสือ Fantastic Beasts and Where to Find Them แต่เนื่องจากเขาดันไปสลับกระเป๋ากับ No-maj คนหนึ่ง ทำให้เขาต้องตามเก็บสัตว์ทั้งหมดกลับมาก่อนที่มันจะวุ่นวายไปทั่วนิวยอร์ก
4. ครั้งหนึ่ง Newt เคยเป็นนักเรียนของโรงเรียน Hogwarts มาก่อน แต่ถูกไล่ออกเนื่องจากทำให้มนุษย์เป็นอันตรายจากสัตว์ประหลาดของเขา แต่ศาสตราจารย์ Albus Dumbledore ก็ยังคงให้ความช่วยเหลือเขาอยู่
5. หนังเรื่องนี้แม้ว่าจะถูกดัดแปลงมาจากหนังสือเล่มบางๆ (แค่ร้อยกว่าหน้า) แต่ก็มั่นใจได้ว่าบทของมันจะไม่ได้โหวงเหวงเหมือนหนังบางเรื่องที่เอามาดัดแปลงถึง 3 ภาค (คงไม่ต้องบอกนะว่าเรื่องอะไร) เพราะ J.K. Rowling จะมารับหน้าที่เขียนบทขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง และในหนังเรื่องนี้ก็ถือเป็นการเปิดตัวการเขียนบทภาพยนตร์เป็นครั้งแรกของเธอด้วย
6. เหตุการ์ณในหนังเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1926 หรือประมาณ 70 ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ใน Harry Potter ฉะนั้นจะไม่ได้มีตัวร้ายอย่าง Voldemort โผล่มาให้เห็น แต่จะเป็น Gellert Grindelwald (รับบทโดย Johnny Depp) พ่อมดศาสตร์มืดที่มีสัตว์วิเศษเป็นของตัวเอง
7. ชื่อหนังบอกอยู่แล้วว่า Fantastic Beast ฉะนั้นทุกๆ คนจะได้พบเห็นสัตว์วิเศษตลอดทั้งเรื่อง แต่ใช่ว่าทุกๆ ตัวจะสามารถควบคุมได้หมด เพราะในหนังเรื่องนี้เขาแบ่งสัตว์วิเศษออกไว้ 5 ชนิดด้วยกัน
1.น่าเบื่อ
2.ไม่มีอันตราย
3.พ่อมดทั่วไปสามารถรับมือได้
4.อันตราย
5.อันตรายระดับเพชรฆาต
8. หนังเรื่องนี้เป็นการดัดแปลงมาจากหนังสือ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ที่แต่งโดย J.K.Rowling แต่ที่หน้าปกจะเขียนเอาไว้ว่าผู้เขียนคือ Newt Scamander เพื่อเป็นกิมมิคเล็กๆ เหมือนกับว่าเขามีตัวตนอยู่จริงๆ แล้วมาเขียนหนังสือให้เราอ่านนั่นเอง
9. หนังเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยระบบ 3D Frame Break ว่ากันง่ายๆ คือสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คในหนังจะทะลุส่วนที่เป็นขอบดำๆ ด้านบนและล่างออกมาเลย
(ใครนึกไม่ออกลองดูภาพเปรียบเทียบความต่างได้จากเพจ IMAX Thailand)
ย้ำกันอีกครั้ง Fantastic Beasts and the where to find them มหัศจรรย์ที่สุดแห่งปี! ด้วยเทคนิค 3D Frame Break ทะลุกรอบภาพ …
โพสต์โดย IMAX Thailand บน 13 พฤศจิกายน 2016
ต่อไปนี้เป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ไม่รู้ก็ได้ แต่รู้ไว้ก็สนุกดี
10. หนังเรื่องนี้จะกำกับโดย David Yates ผู้ที่เคยผ่านงานกำกับ Harry Potter มาแล้ว 4 ภาค และจะกำกับหนัง Fantastic Beasts อีก 4 ภาคที่เหลือด้วย
นี่ลุงไม่คิดจะไปทำหนังเรื่องอื่นเลยเรอะ!!
11. ในตอนแรก J.K. Rowling ตั้งใจจะให้หนัง Fantastic Beasts กลายเป็นไตรภาค แต่ดูเหมือนโลกของผู้ใช้เวทย์มนต์จะไม่ได้จบลงง่ายๆ เพราะภายหลังได้มีการประกาศออกมาว่าหนังจะขยายออกไปอีกเป็น 5 ภาคด้วยกัน แต่ไม่ต้องตกใจว่าหนังจะเลยเถิดออกทะเลไปหรือเปล่า เพราะ J.K.Rowling จะกลับมาทำหน้าที่เขียนบทด้วยตัวเอง ฉะนั้นวางใจได้
12. หนังอีก 2 ภาคจะมีกำหนดฉายในปี 2018 และ 2020 ส่วนอีก 2 ภาคที่เหลือต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกที
13. J.K.Rowling บอกกับสื่อแบบชัดๆ ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ใช่ภาคต่อ หรือภาคต้นของ Harry Potter แต่เป็นภาคแยก ที่เป็นการขยับขยายโลกของพ่อมดแม่มดออกไปอีก
14. J.K. Rowling เขียนหนังสือ Fantastic Beasts and Where to Find Them ขึ้นในปี 2001 ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก แต่เธอกลับนำเอารายได้กว่า 80% ที่ได้จากการเขียนหนังสือเรื่องนี้ ไปมอบให้กับมูลนิธิเด็กผู้ด้อยโอกาสหลายแห่งทั่วโลก นับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าชื่นใจ
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันแล้ว #เหมียวฟิ้น เชื่อว่าทุกๆ คน
คงจะตื่นเต้นที่จะได้กลับสู่โลกพ่อมดแม่มดอยู่แน่ๆ
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
ที่มา imdb , JUST ดู IT.
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.