27 นิสัยแย่ๆ ที่ควรเลิกทำก่อนอายุ 27 ปี เพื่อสุขภาพ และชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต…!!

สมัยตอนเป็นวัยรุ่น จะทำอะไรมันก็สนุกสุดเหวี่ยงไปซะหมด จะให้กินเหล้าปาร์ตี้กันยันเช้าก็ไม่เคยหวั่น หรือจะให้ออกไปทำกิจกรรมโลดโผนท้าทายความตื่นเต้น ก็ไม่เคยกลัว

แต่พออายุเริ่มมากขึ้น เชื่อว่าหลายคนต่างก็รู้สึกคิดถึงความปลอดภัยในชีวิตมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเงื่อนไขจากภาระ หรือหน้าที่ต่างๆที่เราต้องแบกรับ

และนี่คือ 27 นิสัยที่ไม่ได้แย่ต่อคนรอบข้าง แต่เป็นลักษณะนิสัยที่มักจะเผลอติดตัวใครต่อหลายคนมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น และอาจจะส่งผลแย่ๆต่อสุขภาพในระยะยาวได้

 

1. กินขนมจุกจิกได้ทั้งวัน

เผลอเมื่อไหร่เป็นต้องแอบหยิบขนมในตู้เย็นมากินได้ตลอดทั้งวัน เราคงปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าความหวานจากขนมเป็นอะไรที่อร่อยสุดๆ แต่เพื่อสุขภาพที่ดีในวัยที่ร่างกายไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ลองเปลี่ยนเป็นผัก หรือผลไม้ ก็ช่วยลดปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวไปได้เช่นกันนะ

1

 

2. นั่งดูทีวีทั้งวัน ไม่ยอมลุกไปทำอะไรซักที

พักผ่อนจากงานหนักทั้งวันด้วยการนั่งดูซีรีย์ หรือรายการโปรด เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง แต่อะไรที่มากเกินไปก็ย่อมไม่ดี เพราะอย่าลืมว่า เรายังคงมีอะไรอีกหลายอย่างให้ทำในหนึ่งวัน

2

 

3. ใช้จ่ายเงินเกินจำเป็น

เมื่อเข้าสู่วัยที่สามารถหารายได้เองได้แล้ว การอดออมเพื่ออนาคตก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน ถ้าหากใครที่ยังติดอยู่กับปัญหาการหมุนเงินในระบบบัตรเครดิตต่างๆไม่ทัน ลองฝืนตัวเองดูหน่อย เพื่ออนาคตที่สดใสกว่า

3

 

4. กินจั๊งค์ฟู๊ดได้ทุกวี่วัน

วันนี้เบอร์เกอร์ พรุ่งนี้เฟร๊นฟราย เมื่อเช้ากินโดนัทแทน จริงอยู่ที่อาหารเหล่านี้มันตอบโจทก์ชีวิตเรื่องเวลา และความสะดวก แต่ทว่าอวัยวะภายในของเราเมื่อถึงวัยที่ผ่านการใช้งานมามาก มันก็ต้องการๆดูแลที่ดีมากเช่นกัน

4

 

5. กินแก้เครียด

พอโตขึ้นก็ดูเหมือนจะมีแต่เรื่องเครียด ให้เจอได้ทุกวัน แต่เชื่อเถอะว่า มีอีกหลายวิธีที่ช่วยทำให้หายเครียด และส่งผลดีต่อสุขภาพ เช่น การออกกำลังกาย มากกว่าการกินมากเกินจำเป็น และกลายเป็นส่งผลเสียให้สุขภาพแทน

5

 

6. กัดเล็บตัวเอง

ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องแย่ แต่เชื่อมั้ยว่าในวันๆหนึ่งมือเราจับต้องสิ่งของมามากมาย เป็นธรรมดาที่เชื้อโรคจะสะสมอยู่ตามซอกเล็บ และการนั่งแทะเล็บตัวเอง แล้วเชื้อโรคก็ติดเข้าไปด้วย คงไม่ใช่เรื่องดีนะ เพื่อบุคลิกภาพที่ดี เราอาจลองบังคับตัวเองให้ทำอย่างอื่นแทนก็ช่วยได้นะ

6

 

7. คบหาแต่คนที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา

ถึงแม้จะดูเหมือนเรื่องยาก เพราะบางทีคำว่า ‘เพื่อน’ มันก็ค้ำคอเราอยู่ แต่ด้วยภาระหน้าที่ และเป้าหมายในชีวิต เราจะมัวจมอยู่แต่กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าเราให้เสียสุขภาพจิตไปทำไม?

7

 

8. ใช้ซันบล็อคคือเรื่องสำคัญ

สุขภาพผิวเป็นเรื่องสำคัญ ถึงแม้ว่าสมัยวัยรุ่นเราจะไม่เคยกลัวแดดร้อน จะให้ออกไปลั้นล้ากับเพื่อนๆที่ไหนก็ได้หมด แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น สุขภาพก็ต้องการดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษ

การทาครีมกันแดดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะแนะนำจริงๆ ไม่ได้ขายของนะ แต่เพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว และใครๆต่างก็อยากจะมีผิวที่อ่อนเยาว์ไปอีกนาน ถูกมั้ย?

8

 

9. ขี้โมโห หวาดระแวง และเครียด

สมัยวัยรุ่นใครๆก็ใจร้อนกันทั้งนั้น ด้วยวัยและฮอร์โมนในร่างกาย แต่เมื่อถึงเวลาที่เราโตขึ้น เราต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์เหล่านี้ให้ได้ เพราะถ้ามันมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลร้ายต่อตัวเราเอง โดยเฉพาะความขี้โมโหนี้แหละ ที่สร้างปัญหามาให้ใครนักต่อนักแล้ว

9

 

10. ไม่ทานอาหารมื้อเช้า

เพราะมื้อเช้าคือสิ่งสำคัญ ในการทำงาน และการใช้ชีวิตที่ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น พลังงานคือสิ่งสำคัญสำหรับร่างกายเรา

ถ้าใครที่ชอบลืมทานมื้อเช้า และยกยอดไปมื้อถัดๆไปละก็ เราขอเตือนเลยว่า…นั่นอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณลดลง และพลังงานในวันนั้นๆด้วย เพราะฉะนั้นมื้อเช้าคือสิ่งสำคัญที่สุด

10

 

11. ดื่มหนักเหมือนเดิม

อย่างที่บอกไว้ตอนต้น สมัยวัยรุ่นจะให้กินเหล้ายันเช้า หรือปาร์ตี้ข้ามไปอีกวันก็ทำได้ แต่เมื่อเราโตขึ้น ร่างกายถูกใช้งานมามากขึ้น บวกกับภาระหน้าที่ในวันต่อๆไปที่ต้องรับผิดชอบ การดื่มอย่างหนักอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีอีกต่อไป

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าดื่มแอลกอฮอล์จะไม่ดีไปซะทีเดียว เพราะถ้าหากเราใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ มันก็ช่วยผ่อนคลายจากงานเครียดๆมาทั้งวันได้เหมือนกัน

11

 

12. สูบบุหรี่

สำหรับเรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายมากแล้วล่ะ ว่ามันจะส่งผลเสียต่อร่างกายเรามากขนาดไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยที่ไม่ได้มีเวลาออกกำลังกายบ่อยๆ รักษาสุขภาพไว้เพื่ออยู่กับครอบครัว และคนที่รักไปนานๆดีกว่าเนาะ

12

 

13. ใช้ยามากเกินความจำเป็น

ต้องบอกก่อนเลยว่าในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอาการดื้อยา นับว่าสูงเป็นอันดับต้นๆในโลกเลยล่ะ สาเหตุก็เพราะมาจากการใช้ยามากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดอาการดื้อยาตามมา

อย่างไรก็ตาม เราควรที่จะปรึกษาแพทย์ และใช้เมื่อเกิดความจำเป็นจริงๆ จะดีกว่านะ..

13

 

14. ติดอยู่กับความสัมพันธ์แย่ๆ

เมื่อมาถึงจุดหนึ่งในชีวิต ทุกคนก็ต้องเริ่มคิดถึงตัวเอง คิดถึงเป้าหมายในอนาคต และถ้าคุณยังจมอยู่กับความสัมพันธ์แย่ๆ ที่ไม่ได้ช่วยให้กำลังใจ แถมยังถอยเป็นตัวถ่วงเราแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองคิดทบทวนใหม่ดูอีกทีจะดีกว่านะ

14

 

15. สายไปซะทุกเรื่อง

ตอนเป็นเด็ก สายมากที่สุดก็แค่การไปโรงเรียน แต่เมื่อเราโตขึ้น การทำงานก็ต้องมีความมืออาชีพมากขึ้น เพราะฉะนั้นพยายามอย่าสายเลยจะดีกว่า ลองกระตุ้นตัวเองขึ้นมาอีกนิด ให้เตรียมตัวในแต่ละวันก่อนเวลาซักหน่อย

ผลสุดท้ายก็คือตัวคุณเอง ที่นอกจากจะดูเป็นมืออาชีพแล้ว สังเกตุมั้ยว่าใครที่มักจะทำอะไรได้ตรงต่อเวลา จะดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่าคนที่ชอบมาสายเสมอ

15

 

16. มัวแต่บ่นถึงสิ่งที่เราไม่มี

ความทะเยอทะยานคือสิ่งที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเรามัวแต่โฟกัสไปถึงสิ่งที่ไม่มี และเครียดไปกับมัน นั่นก็จะพาลทำให้สุขภาพจิต และร่างกายเราแย่ไปซะเปล่า ลองหันมามองสิ่งที่เรามี และให้คุณค่ากับมันบ้าง แค่นี้ชีวิตก็จะคิดบวกได้โดยปริยาย

16

 

17. มัวแต่รอให้คนอื่นยอมรับ

ไม่ว่าเราจะทำอะไร มันไม่มีทางหรอกที่คนทั้งโลกจะชอบในสิ่งที่เราทำ เพราะแม้แต่ ‘สตีฟ จ็อบ’ ก็ต้องมีคนที่ไม่ชอบเหมือนกัน

ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น มีความสุขไปกับมัน และทำให้ดีที่สุด และเลิกเอาความมั่นใจของตัวเองไปผูกติดกับความคิดคนอื่น แค่นี้ชีวิตก็จะมีความสุขขึ้นได้อีก

17

 

18. ผลัดวันประกันพรุ่ง

มัวแต่ทำทุกอย่างให้เสร็จในวินาทีสุดท้าย หรือไม่เวลาจะทำอะไรก็โยนไปให้พรุ่งนี้ตลอด เลิกนิสัยเสียๆแบบนี้ แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตตัวเองเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น

เชื่อมั้ยว่าการจัดสรรเวลาในแต่ละวันอย่างถูกต้อง ส่งผลด้านความสุขต่อความรู้สึกของเรา มากกว่าคนที่มักจะรอเร่งทำอะไรให้เสร็จในวินาทีสุดท้ายซะอีก

18

 

19. นอนไม่ค่อยหลับ..แต่ก็ไม่แก้ปัญหาให้ถูกต้องซักที

หลายๆคนอาจจะพึ่งยานอนหลับ แต่เราขอบอกเลยว่า…ถ้าเลิกได้ ควรจะเลิก เพราะการพึ่งยานอนหลับตลอดเวลา ส่งผลให้คุณนอนไม่หลับทันที เมื่อเลิกใช้มัน และส่งผลเสียต่อสารเคมีในสมองระยะยาวอีกต่างหาก

เราขอแนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญดีกว่า เชื่อเถอะว่ายังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยทำให้เราหลับได้สบายมากยิ่งขึ้นนอกจากการใช้ยานอนหลับ

19

 

20. พูดโกหกไม่เลิก

ไม่ว่าจะโกหกเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ แต่มัวเราพูดออกไปแล้ว คงรู้แก่ใจดีว่าเราระแวงที่จะโดนจับได้มากขนาดไหน ทางออกที่ดีคือ อย่าพูดโกหกเลยดีที่สุด เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อด้านสุขภาพแล้ว ยังทำให้เราเป็นคนน่าเชื่อถืออีกด้วย

20

 

21. ทำตัวแย่ๆ กับคนที่ห่วงใยเรา

บางทีเราอาจจะมองไม่เห็นว่าใครที่รัก และเป็นห่วงเรามากที่สุด จนอาจเผลอทำตัวแย่ๆใส่ ลองคิดทบทวนดูอีกทีว่าตลอดที่ผ่านมา ใครคือคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเรา แม้เราจะแย่มากแค่ไหนก็ตาม และหันกลับไปดูแลเขาบ้าง ก่อนที่มันอาจจะสายเกินไป

21

 

22. มัวแต่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

ถ้ามัวแต่คิดอยู่อย่างนี้ ก็จะทำให้เรามองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองซักที หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะคนเราต่างเกิดมาไม่เหมือนกัน และทุกคนก็มีความพิเศษในตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วชีวิตเราจะยิ้มง่ายขึ้นอีกเยอะ

22

 

23. จมอยู่กับอดีต

แน่นอนว่าอดีตมีทั้งเรื่องร้าย และเรื่องดี ทุกอย่างมันช่างน่าจดจำ แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่ถ้าเราจมอยู่กับความรู้สึก หรือเรื่องราวในอดีตมากไป ก็อาจจะทำให้ลืมนึกถึงปัจจุบัน และอนาคตได้

เก็บอดีตไว้ในลิ้นชักห้องเล็กๆของหัวใจ เอามันออกมาชื่นชมหรือนึกถึงบ้างในวันที่เหนื่อยล้า แต่ต้องไม่ลืมที่จะอยู่กับปัจจุบันและทำมันให้ดีที่สุด

23

 

24. พยายามที่จะควบคุมคนอื่น

ไม่มีใครชอบที่จะถูกคนอื่นคอยควบคุม เช่นเดียวกันกับตัวคุณเอง เพราะทุกคนมีสิทธิ และเสรีในความคิดของตัวเอง ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้เก่ง หรือฉลาดล้ำโลก แต่การให้สิทธิที่จะคิด และเป็นตัวของตัวเอง คือสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ และตัวคุณเองด้วยเช่นกัน

24

 

25. อย่ามัวแต่เหลิงว่าเราน่ะเก่งที่สุด

อาจจะมีหลายๆครั้งที่โอกาสเข้ามาในชีวิตให้เราได้โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ แต่จงเรียนรู้ไว้ด้วยว่า โลกนี้มีคนอีกเป็นจำนวนมาก มีทั้งคนที่เก่งกว่าเรา และคนที่แย่กว่าเราในหลายๆด้าน อีกทั้งคนเราก็มีความถนัดที่แตกต่างกัน

เปิดใจยอมรับที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากคนอื่น แล้วคุณจะได้พบว่า โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยความน่าสนุกแห่งการเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด

25

 

26. จมอยู่ในความกลัว

กลัวสิ่งใหม่ๆ กลัวจะไม่เป็นอย่างที่คิด กลัวว่าผลจะออกมาไม่ดี กลัวนู้น กลัวนี้… ถ้าเรามัวแต่ปล่อยให้ความกลัวมาครอบงำ ชีวิตนี้อาจไม่ได้พบคำว่า ‘ความสำเร็จ’ ก็ได้นะ

26

 

27. มองหาความสุขจากภายนอกมากเกินไป

จริงๆแล้วความสุขมีอยู่ในทุกๆที่ แม้แต่ข้างตัวเราเอง ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีท่าทีการมองต่อสิ่งนั้นไปในทิศทางใด

แต่สถานที่ๆทำให้มีความสุขที่สุด ไม่ใช่ยุโรป หรือดาวอังคารที่ไหนหรอก แต่มันอยู่ในใจเรานี้แหละ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดบวกกับตัวเอง คุณก็จะได้พบกับความสุขของการเป็นตัวเอง นั่นแหละเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าสิ่งอื่นใด…

27

 

เมื่อโตขึ้น ภาระหน้าที่มากขึ้น บางทีเราก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการมองโลกเพื่อวันข้างหน้าที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน และสุขภาพที่ดีก็อีกเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน

emo-147

ที่มา: Buzzfeed

Comments

Leave a Reply