เส้นทางนักสู้ของ Conor McGregor ที่ไม่ได้มาด้วยโชคชะตา แต่มาด้วยใจที่มุ่งมั่น!!

เมื่อกล่าวถึงสังเวียนการต่อสู้ที่เรียกได้ว่าเข้มข้น และมันถึงพริกถึงขิงของเหล่านักสู้แล้วก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับสังเวียน UFC อย่างแน่นอน เพราะในสังเวียนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักสู้ทุกคนสามารถใช้ศิลปะการต่อสู้ชนิดใดแบบใดก็ได้เข้ามาใช้เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้อีกฝั่ง

ทั้งหมัด มวย การปล้ำ การล็อค ศอก เข่า ลูกเตะ หัวโหม่ง ทุกอย่างนี้ล้วนแล้วแต่สามารถนำมาใช้บนสังเวียนได้ทั้งสิ้น และในวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็มีเรื่องราวของคนที่ได้ชื่อว่ายืนอยู่บนจุดสูงสุดของสังเวียนนี้มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง

Conor McGregor หรือ “The Notorious” เพิ่งจะได้เป็นนักสู้คนแรกและคนเดียวที่ได้ครองเข็มขัดแชมป์ถึงสองเส้นในของสังเวียน UFC ในรุ่น Feather Weight และ รุ่น Welterweight

แต่กว่าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้นั้น ขอบอกว่ามันไม่ง่ายเลย…Conor McGregor เกิดเมื่อปี 1988 ที่เมือง Dublin ประเทศ Ireland โดยก่อนหน้าที่เขาจะมีความชื่นชอบในเรื่องของศิลปะการต่อสู้ เขาเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน (แถมยังเป็นแฟนตัวยงของผีแดงแมนยูฯ อีกด้วยนะ)

Conor เป็นเด็กที่เกเร พลังเยอะ ชื่นชอบความรุนแรง ชอบคิดถึงแต่เรื่องต่อสู้ ใจร้อนกว่าวัยรุ่นทั่วๆ ไปจึงทำให้เขามีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด จึงทำให้เขามีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องชกต่อยเป็นพิเศษ

จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็เริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่ตอนอายุได้ 12 ปี หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มฉายแวว และได้เริ่มการแข่งขันในระดับเยาวชน นับเป็นการฉายแววครั้งแรกเลยทีเดียว

Conor ยังคงวนเวียนอยู่ในสังเวียนต่อสู้อยู่เรื่อยๆ จนอายุได้ 20 ปี ในทีสุดก็ได้มาพบกับหญิงสาวคนหนึ่งในขณะที่ออกไปเที่ยวที่ไนท์คลับชื่อว่า Dee Devlin และทั้งคู่ตกลงปลงใจคบหาดูใจกันตั้งแต่นั้นมา

ในช่วงนั้น Conor ยังคงเป็นนักชกดาวรุ่งฝีมือดี แต่ยังไม่ได้ลงแข่งในรายการที่มีชื่อเสียงจึงทำให้เขาไม่มีรายได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องหมั่นฝึกฝนตนเองเผื่อว่าสักวันหนึ่งโอกาสที่เขาจะได้ไปชกในสังเวียนใหญ่ๆ จะมาถึง

แต่ถึงอย่างนั้นคุณ Dee ก็ไม่เคยที่จะทิ้ง Conor ไปไหนเลย แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงคนเดียวที่ทำงานหาเงินมาจุนเจือเลี้ยงปากเลี้ยงท้องก็ตาม เธอมักจะคอยจัดอาหารเป็นอย่างดีให้กับ Conor เพราะรู้ว่าเขาต้องทานอาหารดีๆ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และคอยให้กำลังใจทุกครั้ง เธอเชื่อว่าเขาจะต้องทำได้

เวลาผ่านไปชื่อเสียงจากการเอาชนะการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วนของ Conor McGregor ก็ดังขึ้นเรื่อนๆ จนในที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2013 ผู้บริหารของ UFC คุณ Dana White ได้เดินทางไปยังเมือง Dublin เพื่อที่จะเซ็นสัญญากับเขา

และแล้วความฝันก็เป็นจริง Conor McGregor ได้พาแฟนสาว Dee Devlin ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยกัน เขาได้เข้ามาโลดแล่นโชว์ฝีไม้ลายมือและฝีปากที่แสนเจ็บแสบ คอยจิกกัดคู่ต่อสู้คนอื่นๆ ในเวทีที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง UFC ดังที่เขาเคยใฝ่ฝันเอาไว้

เขาเอาชนะคู่ต่อสู้คนแล้วคนเล่า จนในที่สุดก็มีโอกาสได้เข้าชิงเข็มขัดแชมป์ในรุ่น Featherweight ครั้งแรกในปี 2015 โดยปกติแล้วเขาจะต้องชิงกับคนถือเข็มขัดคนก่อนที่เป็นสุดยอดนักสู้ที่เอาชนะคู่ต่อสู้มามากมายอย่าง Jose Aldo แต่แชมป์ดันได้รับบาดเจ็บในระหว่างซ้อมไม่สามารถมาลงแข่งซะได้

Conor จึงต้องดวลกับ Chad Mendes ที่เป็นเสมือนผู้ท้าชิงอีกคนแทนเพื่อชิงเข็มขัด และเขาก็สามารถเอาชนะ TKO ได้ในยกที่สอง ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์เปี้ยนในรุน Featherweight อย่างเป็นทางการ

ทุกวันนี้ Conor McGregor ทำรายได้การจากการชกได้มากมายมหาศาล รวมทั้งเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์อุปกรณ์กีฬาชื่อดังอีกมากมาย รวมๆ แล้วก็ประมาณ 920 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว

“เธอทำเพื่อผมมาเยอะมากๆ เธอต้องทำงานหนัก เธอย้ายมาที่นี่ด้วยกันกับผม คอยชี้นำทางที่ถูกต้องให้ผมมาเสมอ ในตอนนั้นเธอและผมต้องผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน แต่เธอก็ไม่เคยทิ้งผมไปไหนเลย

ทุกวันนี้ผมมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว มันถึงเวลาที่ผมจะตอบแทนเธอบ้าง ผมให้เธอเลิกทำงาน พาเธอไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยวทุกที่บนโลกที่เธออยากจะไป เติมเต็มทุกสิ่งที่เธอไม่เคยได้ ทุกอย่างที่ผมทำไปทั้งหมดก็เพื่อดวงใจของผม และมันจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป” Conor McGregor กล่าวถึงคนรักของตน

และแน่นอนวาทางด้านของ Dee Devlin เองก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเลือกคนไม่ผิด และไม่เสียใจเลยที่ได้เชื่อมั่นในตัวของแฟนหนุ่มมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าใครจะว่าอย่างไรก็ตาม

“ฉันเห็นความตั้งใจของเขา เขาตั้งใจมากจริงๆ พวกรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า เราเฝ้ารอมันมาโดยตลอด และในที่สุดมันก็กลายเป็นความจริง ฉันภูมิใจในตัวเขามากๆ เลยล่ะ” Dee Devlin กล่าวถึงแฟนหนุ่มของเขา

นี่แหละหนาที่เค้าเรียกกันว่าคู่แท้ ไม่ว่าจะช่วงทุกข์หรือสุขก็จะคอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ ก็ขอให้ทั้งคู่รักกันนานๆ ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะจ๊ะ ^^

ที่มา : wikipedia, thesun