นับตั้งแต่สงครามเย็นจบลงไปตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 90 ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของประเทศสหรัฐอเมริกาและสหพันธรัฐรัสเซียสองชาติมหาอำนาจของโลกถือว่าอยู่ในช่วงที่ตกต่ำที่สุด ทั้งความขัดแย้งทางด้านนโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจ ทำให้สถานะการเมืองโลกอยู่ในสภาพไม่มั่นคงอย่างมาก
แต่ล่าสุดดูเหมือนความสัมพันธ์อันย่ำแย่นี้จะมีทางออกแล้ว เมื่อวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ต่อสายตรงคุยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา
และทั้งสองคนได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการกลับมารักกันอีกครั้งของทั้งสองประเทศมหาอำนาจ
ทางทำเนียบประธานาธิบดีของรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า การพูดคุยของทั้งสองไปอย่างอบอุ่น และพวกเขาต่างไม่พอใจสถานะความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในขณะนี้ และต้องการจะทำให้ความสัมพันธ์กลับสู่ความปกติโดยเร็วที่สุด
โดยทรัมป์ได้กล่าวว่า เขาต้องการมีความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งต่อรัฐบาลรัสเซียรวมถึงประชาชนชาวรัสเซียด้วยเช่นกัน
สรุปการพูดคุยของทั้งสองครั้งนี้ได้คร่าวๆ ว่า …
1. สำนักงานของทรัมป์ เปิดเผยว่าการพูดคุยครั้งนี้ ปูตินเป็นฝ่ายติดต่อมาทางโทรศัพท์ก่อน
2. หลังจากการพูดคุยกัน ทั้งสองยืนยันตรงกันว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศ กลับคืนสู่ภาวะปกติ และมีความเห็นตรงกันว่า สภาวะความสัมพันธ์ตอนนี้อยู่ในระดับไม่น่าพึงพอใจ
3. ปีหน้าจะรบ 210 การสถาปนาการทูตของสองประเทศ เลยน่าจะเป็นโอกาสอันดีในการปรับนโยบายเพื่อหาความร่วมมือกัน และเน้นการปฏิบัติจริงๆ มากขึ้น แทนที่จะเป็นแค่นโยบายลมปากเหมือนแต่ก่อน
4. ทั้งสองคุยเรื่องซีเรียเช่นกัน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งของทั้งสองประเทศ ถ้าแก้เรื่องนี้ได้ เรื่องอื่นก็สบาย
5. พวกเขาจะร่วมมือกันต่อต้านภัยการก่อการร้ายนานาชาติ รวมถึงจากเหล่าลัทธิสุดโต่งทั้งหลาย ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามหลักของโลกในปัจจุบัน
6. นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ ทั้งสองยังคุยเรื่องเศรษฐกิจกันด้วย เพื่อเติบโตต่อไปในอนาคต
7. ทั้งสองผู้นำยืนยันว่า จะคงการติดต่อทางโทรศัพท์เอาไว้เอย่างสม่ำเสมออีกในอนาคต
นอกจากนี้ทั้งสองยังพูดถึงปัญหาในซีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในปัจจุบันอีกด้วย โดยพวกเขาได้สัญญาว่าจะร่วมมือกันเพื่อต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายนานาชาติรวมถึงเหล่าลัทธิสุดโต่งทั้งหลายอีกด้วย
นอกจากนี้ ทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ค่อนข้างจะได้รับความนิยมจากนักการเมืองและนักธุรกิจชาวรัสเซียเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุนี้อาจทำให้เขาสามารถเข้าถึงชาวรัสเซียได้มากกว่าประธานาธิบดีคนอื่นๆ
ก็ต้องรอชมกันต่อไปว่า สถานการณ์การเมืองโลกจะเป็นอย่างไร บอกได้เลยว่าน่าติดตามจริงๆ !!
ที่มา mcclatchydc, BBC Thai
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.