เปิดตัวกันอย่างยิ่งใหญ่กับภาคยนตร์ Fantastic Beasts and Where to Find Them ที่เข้ามาสานฝันให้เหล่าแฟนๆ โลกพ่อมดแม่มดของ J.K. Rowling และงานใหญ่แบบนี้จะพลาดหนึ่งในพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ด้วยได้ยังไง…
ใช่แล้วล่ะ ศาสตราจารย์ Albus Dumbledore หนึ่งในพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลก็จะเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ (ว่ากันว่าจะมาในภาค 2) โดยเฉพาะเกี่ยวกับการที่ตัวละครใหม่ Newt Scamander ที่ถูกขับไล่ออกจากฮอกวอตซ์และ Dumbledore ต้องการที่จะเข้ามาหยุดเรื่องนี้
และถ้าจะว่าไปแล้ว ตัวละคร Albus Dumbledore นั้น คือหนึ่งในตัวละครที่ลึกลับที่สุดเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะมีบทบาทใน Harry Potter หลายต่อหลายภาค แต่สำหรับเรื่องราวเบื้องหลังของเขาก็ยังลึกลับอยู่ดี
แต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 15 เรื่องราวที่คุณอาจไม่รู้ เกี่ยวกับศาสตราจารย์คนนี้มาฝากกัน!!
เขามีความรักกับ Gellert Grindelwald
แน่นอนว่า Dumbledore ก็มีความสนใจในเรื่องของเครื่องรางยมฑูตเช่นกัน แต่สิ่งที่เขาสนใจที่สุดนั้นไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์หรือว่าผ้าคลุมล่องหน แต่เป็นหินชุบชีวิตต่างหาก…
ประกอบกับการที่ J.K. Rowling เคยบอกใบ้ไว้ว่า ชีวิตและเรื่องความรักของ Dumbledore นั้นจะถูกเปิดเผยออกมาให้ได้ทราบกันในซีรีย์นี้ และ Gellert Grindelwald นั้นเป็นผู้ชาย นั่นทำให้ศาสตราจารย์ของเราเป็น…
สุดท้ายนี้ Gellert Grindelwald กลับกลายมาเป็นหนึ่งในพ่อมดศาสตร์มืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค ชีวิตรักของเขานั้น ช่างน่าสงสารเหลือเกินนนน
เขาก็อยู่ด้วย ตอนที่คำพยากรณ์ของแฮร์รี่ถูกเปิดเผย
ศาสตร์แห่งการพยากรณ์นั้น ไม่ค่อยจะได้รับการยอมรับหรือเป็นที่นิยมเท่าไหร่ แม้กระทั่งตอนที่เขาจะจ้างศาสตราจารย์ Trelawney ก็ตาม เขาก็ยังลังเลอยู่พักใหญ่ๆ จนเขาได้ลองให้โอกาสเธอพิสูจน์ตัวเอง เธอก็มอบคำพยากรณ์เกี่ยวกับแฮร์รี่และโวลเดอมอร์ให้กับเขา!!
แต่ตอนนั้นโชคร้ายที่ศาสตราจารย์ Snape ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และเขาได้นำเรื่องนี้ไปบอกให้กับลอร์ดมืด จนเป็นสาเหตุของการตายของพ่อแม่ของแฮร์รี่ และการเดินทางของพ่อมดน้อยก็ได้เริ่มขึ้น
เขาเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาการแปลงร่างก่อนที่จะเป็นอาจารย์ใหญ่
ปริศนาก่อนการมาเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนของเขานั้นค่อนข้างที่จะลึกลับ แต่ก่อนหน้านี้เขาเป็นอาจารย์สอนวิชาแปลงร่างผู้มีชื่อเสียงมาก่อน งานวิจัยต่างๆ ของเขาก็ได้รับรางวัลในวงการพ่อมดแม่มดมากมาย
แถมมีสัมพันธ์ที่ดีต่อศาสตราจารย์และพ่อมดแม่มดดังๆ คนอื่นๆ เช่น Nicholas Flamel ผู้ที่สร้างศิลาอาถรรพ์สำเร็จ แถมวิชาการแปลงร่างก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะถือเป็นศาสตร์ที่ยากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในระดับโมเลกุลทุกๆ โมเลกุลเพื่อที่จะแปลงร่างเป็นสิ่งอื่น
นอกจากนี้เขาก็ได้รับข้อเสนอให้ไปเป็นนายกกระทรวงเวทย์มนต์ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธจดหมายดังกล่าวไป ซึ่งอาจพูดได้ว่าการต้องการที่จะสอนในฮอกวอตซ์ของเขานั้น เป็นวิธีการที่เขาใช้ในการข่มใจความกระหายอำนาจของตัวเอง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่น้องสาวของเขา Ariana ต้องมาเสียชีวิตไปเพราะ Grindelwald นั่นเอง
เขาสามารถล่องหนได้โดยไม่ต้องใช้ผ้าคลุมล่องหน!!
เราคงไม่มีโอกาสได้ทราบถึงความสามารถทางด้านเวทมนต์ของเขาจนหมดหรอก เพราะเขาดูเก่งกาจมากๆ แต่ในตอนแฮร์รี่พอตเตอร์ภาค 1 (ศิลาอาภรรพ์) เขาได้มอบผ้าคลุมล่องหนคืนให้กับแฮร์รี่
เขาไม่ต้องใช้ผ้าคลุมนั้น เพราะเขาแค่ยึดมาจากเจมส์ พ่อของแฮร์รี่เพื่อตรวจสอบดูว่ามันทำมาจากอะไร และในภาคศิลาอาถรรพ์นั้น เขาก็ยังเคยบอกแฮร์รี่ว่าเขาสามารถล่องหนได้
เขาสามารถใช้คาถาพรางกายไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อล่องหน โดยเฉพาะพลังด้านเวทย์มนต์ของเขาที่ส่งเสริมให้คาถานี้ทรงพลังขึ้นไปอีก
เขาเกิดในปี 1881 และเสียชีวิตด้วยอายุ 115 ปี
มีคนเคยถาม J.K. Rowling ว่าเขาอายุเท่าไหร่กันแน่ แต่ข้อมูลที่ได้ไปนั้นระบุว่าเขามีอายุ 150 ปีพอดี (แต่เอาจริงๆ เธอน่าจะพูดว่า 115 ปี แต่เพราะสำเนียงของเธอฟังยากเกินไปจนทำให้ผู้ถามได้ข้อมูลที่ผิด)
แต่ตอนหลังเธอก็มาแก้ไขเรื่องนี้โดยการเขียนลงในเว็บไซต์ของเธอในปี 2007 ว่าเป็น 115 ปี และนั่นทำให้เขาเกิดในปี 1881 ล่ะ!!
เข้ากับคอนเซ็ปต์หนึ่งและคำคมประจำตัวของเขาที่ว่า ‘ความสุขสามารถหาได้แม้ในวันที่มืดมิดที่สุด แค่มีแสงสว่าง’ เพราะอะไรน่ะเหรอ??
เพราะว่าในปี 1879 คือปีที่ Thomas Edison ประดิษฐ์หลอดไฟ และปี 1881 คือปีที่มีโรงภาพยนตร์แห่งแรกของสหราชอาณาจักรที่ติดตั้งกระแสไฟฟ้านั่นเอง
เขาได้รับรางวัล Order of Merlin หลังจากเอาชนะ Grindelwald ได้
สำหรับรางวัล Order of Merlin คือ รางวัลเกียรติยศสูงสุดของพ่อมดแม่มด รางวัลนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Merlin พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคกลาง รางวัลนี้ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถทางด้านเวทย์มนตร์และได้แสดงความกล้าหาญทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นถึงจะได้
ในช่วงที่ Grindelwald ขึ้นสู่อำนาจและแผ่ขยายความกลัวไปทั่วยุโรปนั้น Dumbledore กลับเอาชนะ Grindelwald และไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ที่ว่ากันว่าผู้ใช้จะไม่มีทางพ่ายแพ้ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับรางวัลอันทรงเกียรติทุกประการ
เขาโกหกเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเห็นในกระจกแห่ง Erised ในภาค 1
ใช่แล้วล่ะ กระจกที่แอร์รี่เห็นภาพตัวเองยืนกับพ่อและแม่ของเขานั่นเอง แต่พอแฮร์รี่ถามเขากลับบ้างว่าเขาเห็นอะไร เขากลับตอบว่า ‘ฉันเห็นตัวเองที่ถือถุงเท้าหนาๆ อยู่เท่านั้น’ …แน่นอนว่ามันไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย
แต่ในปี 2007 ทาง J.K. Rowling ก็ได้ออกมาเผยว่าศาสตราจารย์น่ะโกหกแฮร์รี่ ที่จริงแล้วเขาเห็นทุกๆ คนในครอบครัวของเขายังมีชีวิต และมีความสุขต่างหากคล้ายๆ กับสิ่งที่แฮร์รี่เห็นนั่นแหละ
บ็อกการ์ตของเขาคือศพน้องสาวตัวเอง
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในชีวิตของเขาก็คือเรื่องราวการเสียชีวิตของน้องสาว Ariana ในตอนที่เขาดวลกัน 3 คน โดยมีเขา Aberforth (น้องชาย) และ Grindelwald (คนรักที่เปลี่ยนไป) แต่พอ Ariana เข้ามาขวาง ก็คงโดนคาถาของ 1 ใน 3 คนนี้
และหนึ่งในสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือ เขาคือคนที่ยิงเวทย์มนต์สังหารน้องสาวของตัวเอง และถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็นผู้ร่วมก่อเหตุในการตายน้องสาวของตัวเองอยู่ดี เลยกลายเป็นสิ่งที่เขากลัวที่สุด
เขาสามารถใช้เวทย์มนต์ได้ทั้งๆ ที่ไม่มีไม้กายสิทธิ์หรือการร่ายคาถา
สุดยอดพ่อมดที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้โดยไม่ค้องร่ายคาถา และยังสามารถใช้ได้โดยไม่มีไม้กายสิทธิ์ด้วย โดยเฉพาะฉากที่เขาเรียกนกฟีนิกซ์ของเขาออกมาเพื่อหลบหนี
แถมในแฮร์รี่พอตเตอร์ภาคแรก เขาก็ยังใช้มือเปล่าๆ ในการเปลี่ยนสีธงทั้งหมดของบ้านเพื่อเปลี่ยนเป็นงานเฉลิมฉลองของกริฟฟินดอร์ ตอนภาค 3 ที่แฮร์รี่ตกลงมาจากอากาศเพราะผู้คุมวิญญาณตอนแข่งควิชดิช และอีกหลายๆ เหตุการณ์
เขาสามารถเข้าใจภาษาพาร์เซล
พาร์เซลก็คือภาษาของงู J.K. Rowling เคยให้สัมภาษณ์กับ Bloomsbury ในปี 2007 ว่า Dumbledore นั้นมีความรู้ทางด้านภาษาพาร์เซล
และในภาค Half-Blood Prince ศาสตราจารย์ Dumbledore ก็ได้โชว์ความทรงจำของเขา ขณะที่ Bob Ogden เจ้าหน้าที่กระทรวงเวทย์มนต์ได้ไปยังบ้านของ Gaunts ญาติของโวลเดอมอร์
ระหว่างนั้นพวกเขาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันโดยใช้ภาษาพาร์เซล และเหมือนว่า Dumbledore ก็เข้าใจภาษาเหล่านั้นตอนที่พวกเขาพูดด้วย อาจเป็นไปได้ว่าเขาเรียนรู้ภาษานี้เพื่อที่จะได้เข้าใจโวลเดอมอร์มากขึ้น
พ่อของ Dumbledore ตายในคุกอัซคาบัน
อาจเรียกได้ว่าเป็นที่มาของความเศร้ามากมายในชีวิตของเขา เรื่องที่ Ariana ถูกเด็กหนุ่มมักเกิลทำร้ายเข้าจนเธอไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้อีก (เพราะเธอใช้เวทย์มนตร์และเด็กมักเกิลเหล่านั้นไปเห็นเข้าให้)
ไม่ว่าจะทรมานหรือคุกคามทางเพศจนเป็นเหตุให้น้องสาวของเธอมีความผิดปกติทั้งทางด้านร่างกายหรือจิตใจ Percival พ่อของเขาได้ไปจัดการล้างแค้น และนั่นก็ผิดกฎของกระทรวงเวทย์มนต์อย่างหนัก
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยปริปากว่าทำไมเขาจึงทำร้ายพวกลูกมักเกิลดังกล่าว ทำให้เขาต้องติดคุก แถมครอบครัวของ Dumbledore ก็ต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรกอีก
สิ่งที่ถูกบรรจุในไม้กายสิทธิ์ของ Dumbledore คือขนของ Thestral
J.K. Rowling เคยเขียนไว้ในเว็บไซต์ของเธอว่าขนที่อยู่ภายในไม้กายสิทธิ์ Elder นั้นคือ Thestral สัตว์น่าเกลียดน่ากลัวที่จะเห็นหลังจากที่คนเห็นความตายของอีกคนนั่นเอง
หลุมศพของเขาคือหลุมเดียวในฮอกวอตซ์
สำหรับครูใหญ่ หรืออาจารย์หลายๆ คนที่เสียชีวิตก็คงจะอยากถูกฝังไว้ใกล้ๆ กับครอบครัวหรือสุสานของบรรพบุรุษ แต่ด้วยพื้นหลังที่ค่อนข้างจะปวดร้าว (แบบแฮร์รี่) ฮอกวอตซ์เลยกลายเป็นสถานที่ๆ Dumbledore เรียกได้ว่า ‘บ้าน’ จริงๆ เพียงหนึ่งเดียวของเขา
นอกจากแฮร์รี่แล้ว ก็มีเขานี่แหละที่เคยครอบครองเครื่องรางยมฑูตทั้ง 3
พวกเขาคือสองพ่อมดเท่านั้นที่เคยครอบครองเครื่องรางได้ครบทั้ง 3 ชิ้น และนอกจากนี้ทั้งสองก็ยังมีความคล้ายคลึงกันอยู่มากอย่างปฏิเสธไม่ได้ เช่นแฮร์รี่กำพร้ามาตั้งแต่เด็กๆ แถมแฮร์รี่ก็เห็นตัวเองยืนกับครอบครัวอย่างมีความสุขตอนที่มองเข้าไปในกระจกแห่ง Erised
นอกจากนี้พวกเขาก็มีพื้นเพเป็นคนบ้านเดียวกันอีกต่างหาก (Godric’s Hollow) พวกเขาเจอเรื่องราวและความเศร้ามาตลอดชีวิต…
Dumbledore ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Grindelwald โดย Bathilda Bagshot
ในภาคถ้วยอัคนี คือภาคแรกในโลกของแฮร์รี่ที่เผยให้เห็นว่า ‘ฮอกวอตซ์’ ไม่ใช่โรงเรียนพ่อมดและแม่มดแห่งเดียวในโลก มีทั้งโบซ์บาตงและเดิร์มสแตรงค์อยู่ด้วย โดยเฉพาะเดิร์มสแตรงค์ที่มักจะมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตพ่อมดศาสตร์มืด และนั่นก็คือที่เรียนของ Grindelwald ล่ะ!!
หลังจาก 7 ปีที่ Dumbledore เรียนจนจบที่ฮอกวอตซ์ Grindelwald ได้เดินทางมาที่หมู่บ้านที่เขาอยู่ Godric’s Hollow เพื่อค้นหาเครื่องรางยมฑูต ซึ่งเพื่อนบ้านของเขา Bathilda Bagshot นั้นก็ดันเป็นญาติของ Grindelwald ซะอีก!!
Bathilda Bagshot เป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของครอบครัว Dumbledore หลังจากที่ได้รู้จักเด็กหนุ่มทั้งสอง เธอเห็นความคล้ายคลึงและความเก่งกาจของทั้งคู่ เธอจึงแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน
นอกจากนี้ Bathilda Bagshot ก็ยังเป็นนักประวัติศาสตร์เวทย์มนต์ และเธอก็ได้เขียนเรื่องราวของทั้งคู่ลงในหนังสือของเธอ A History of Magic ด้วยล่ะ!!
เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ ที่เราจะได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวของทั้งคู่ให้มากขึ้นใน Fantastic Beasts เนี่ย รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย ><
ที่มา: Screenrant
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.