ดูแล้วมาโม้!! กลับสู่โลกเวทย์มนต์ไปกับ “Fantastic Beasts” เรื่องอีกฝั่งจาก “Harry Potter”

นับตั้งแต่ที่พ่อมดน้อย Harry Potter ลาโรงไปเมิื่อ 2011 ตอนนี้ก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว ถึงตอนนี้การผจญภัยบทใหม่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งพร้อมด้วยตัวละครหน้าใหม่หลายตัว

แต่ถึงยังไงหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ชุด Harry Potter สักเท่าไหร่นัก ล่าสุด#เหมียวฟิ้นเพิ่งจะออกจากโรงมาเลย เดี๋ยวจะมาโม้ให้ฟังว่าเป็นยังไงบ้าง

 

1

 

เรื่องราวจะเล่าถึง Newt Scamander (รับบทโดย Eddie Redmayne) นักสัตว์วิเศษวิทยาที่ออกเดินทางไปทั่วโลก ศึกษาสัตว์วิเศษตามที่ต่างๆ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมารวบรวมและเขียนเป็นหนังสือ Fantastic Beasts and Where to Find Them

แต่แล้วก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เข้าเมื่อเขาเดินทางมาถึงที่อเมริกา แต่ดันไปสลับกระเป๋ากับ No-maj (คำที่ใช้เรียกพวกคนทั่วไปที่ไม่มีเวทย์มนต์ในอเมริกา) คนหนึ่ง ทำให้เขาต้องตามเก็บสัตว์ทั้งหมดกลับมาก่อนที่มันจะสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนและเกิดเป็นสงคราม

 

2

 

สิ่งแรกที่ต้องบอกก่อนเลยก็คือ นี่คือเรื่องราวการผจญภัยบทใหม่ ที่แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Harry Potter เลย มีกลุ่มตัวละครใหม่ที่เราไม่คุ้นตา สถานที่ใหม่ที่ไม่เหมือนกับใน Hogwarts บรรยากาศแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงแต่มีเวทย์มนต์ใช้เหมือนกันเท่านั้นเอง

 

3-5

 

แต่ในระหว่างที่#เหมียวฟิ้นดู กลับติดภาพของ Harry Potter ทั้งการดำเนินเรื่อง กลุ่มตัวละคร ปริศนาต่างๆ เพราะถ้าว่ากันตามจริงหนังพ่อมดน้อยก็ค่อนข้างจะเป็นหนังสืบสวน (ที่เคลือบความเป็นแฟนตาซี) พอสมควร

แต่ใน Fantastic Beasts and Where to Find Them เราว่าอาจจะยังไม่แน่นพอเมื่อเทียบกับ Harry Potter ภาคแรก (แต่ถ้าเราจะมองว่ามันคือเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้วก็ทำใจยอมรับได้ล่ะนะ)

 

4

 

เรื่องของกลุ่มตัวละครนั้น ใน Harry Potter จะใช้ตัวละครหลัก 3 ตัว คือ Harry, Ron และ Hermione แต่เมื่อมาเป็น Fantastic Beasts หนังจะต้องมีกลุ่มตัวละครใหม่ให้คนติดตาม

J.K. Rowling จึงเขียนบทให้ตัวละครนำในหนังชุดนี้มี 4 ตัว คือ Newt, Tina, Kowalski และ Queenie แต่ตัวละครทั้ง 4 ยังไม่มีเสน่ห์มากพอจะดึงดูดให้เราประทับใจหรือรู้สึกจดจำได้เท่า 3 ตัวละครจาก Harry แต่ก็ขอชื่นชมทีมงานเลยที่คัดเลือกนักแสดงมาได้เหมาะสมและหน้าตาดูเป็นคนที่อยู่ในยุคนั้นจริงๆ

 

5

 

หนังมีช่วงง่วงๆ บ้างในตอนกลางเรื่อง เหมือนจังหวะการเล่าจะค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็พอจะมีเวทย์มนต์และ CG ให้เราได้ตื่นเต้นพอสมควร แต่โดยภาพรวมถือว่าหนังทำให้เราได้เปิดหูเปิดตา เห็นอีกมุมหนึ่งของโลกเวทย์มนต์ได้เป็นอย่างดี

 

6

 

เรื่องนี้คงเป็นการทำขึ้นเพื่อสนองนี๊ดให้กับแฟน Harry Potter เพราะตลอดเวลา 2 ชั่วโมงกว่า มันทำให้เราได้ท่องไปกับโลกเวทย์มนต์จริงๆ มีการใช้คาถาที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการต่อสู้ด้วยรูปแบบที่เราเคยเห็นมาก่อน ยังคงมีกลิ่นอายการตกแต่งอาคาร เครื่องแต่งกาย และอะไรอีกหลายอย่าง

 

7

 

ส่วนตัวร้ายหลักในภาคนี้…จะพูดชื่อออกไปก็จะเป็นการสปอยล์ แต่เอาเป็นว่า “นึกไม่ถึง” เลยทีเดียว ที่เลือกจะเปิดเผยตัวแบบนี้…แต่โดยรวมของหนังถือว่าสนุกคุ้มค่ากับเงินมาก

ยิ่งถ้าได้ดูในระบบ IMAX 3D Freame Break (ที่จะมีตัวละครหรือเอฟเฟคเลยออกมาที่ขอบดำด้านบนและล่าง) ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคุณหลุดเข้าไปในนั้นจริงๆ เลย

emo-114

เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น

Comments

Leave a Reply