ถึงแม้การรีวิวและการวิเคราะห์จากเหล่านักวิจารณ์จะได้รับการเชื่อถืออย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการพิจารณาโดยเหล่าผู้ที่มีความรู้ทางด้านนั้นจริงๆ แต่บางครั้งถ้าพูดถึงเรื่อง ‘ความชอบ’ ล้อวนๆ ล่ะก็ คะแนนจากเหล่านักวิจารณ์ก็อาจไม่ ‘จริง’ เสมอไป
หลายๆ ครั้งเพื่อนๆ ก็เคยรู้สึกกันว่า หนังที่ได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์ต่ำๆ ทำไมเราถึงรู้สึกสนุกเหลือเกิน ซึ่งวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ขอนำ 25 หนังที่ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ต่ำ แต่แฟนๆ กลับชื่นชอบเอาซะมากๆ จากเว็บไซต์ Metacritic มาฝากกันแหละ มาดูกันเลยว่าจะมีเรื่องไหนกันบ้าง
25. “London” (2006)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 24/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.2/10
‘เป็นความพยายามที่ไม่น่าดูชมนัก ของการพยายามเซ็กซี่ และความพยายามที่จะค้นหาความหมายของชีวิตผ่านปรัชญา เป็นภาพยนตร์เชิงชู้สาวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มากไปกว่านั้น’ The New York Times
24. “Domestic Disturbance” (2001)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 29/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.7/10
‘สิ่งที่น่าตกใจสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ มีคนคิดจะทำเรื่องราวแบบนี้ขึ้นจริงๆ ด้วยเหรอ’ The Washington Post
23. “She Hate Me” (2004)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 28/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.6/10
‘หนึ่งในภาพยนตร์ที่มีการเหยียดทั้งเพศและผิวมากที่สุด แถมน่าเบื่อจนรับไม่ได้’ Entertainment Weekly
22. “Grind” (2003)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 30/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘เด็กบอร์ดและชีวิตของพวกเขา ไม่มีอะไรเล้ยยยย’ USA Today
21. “The Quiet” (2006)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 34/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘รู้สึกกดดันไม่พอที่จะเครียด แถมไม่ตลกพอที่จะขำ’ New York Times
20. “The Replacements” (2000)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 30/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘หนังที่แย่ที่สุดของศตวรรษนี้แล้วล่ะ’ Salon
19. “BloodRayne” (2006)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 8/100
คะแนนจากผู้ชม: 7.7/10
‘ไม่มีอะไรน่าสนใจ’ Chicago Reader
18. “Without a Paddle” (2004)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 29/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘ถ้าคิดถึงภาพยนตร์โง่ๆ ที่ตลกแล้วล่ะก็ เรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องที่โง่ที่สุดแล้วล่ะ’ USA Today
17. “Branded” (2012)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 20/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.0/10
‘น่าเบื่อเป็นที่สุด พูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว’ Los Angeles Times
16. “I Melt With You” (2011)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 6/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.7/10
‘เรื่องราวของพวกโง่ ที่จมดิ่งเข้าไปในวังวนความโง่ของตัวเอง’ The A.V. Club
15. “Dracula 2000” (2000)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 26/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.7/10
‘ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเอ่อ…แวมไพร์’ Variety
14. “Sorority Row” (2009)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 24/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.6/10
‘พล็อตก็แย่บทพูดก็แย่ ถึงจะมีเซ็กซี่มาบรรเทาเบาๆ ก็ช่วยฉุดอะไรไม่ได้’ Empire
13. “In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale” (2008)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 15/100
คะแนนจากผู้ชม: 7.8/10
‘ถึงจะตั้งใจให้มันดูตลกเลือดสาด แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่เลย…’ L.A. Weekly
12. “Ready to Rumble” (2000)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 23/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.6/10
‘ภาพยนตร์ที่ทำมาให้คนดูมวยปล้ำได้ดูกันขำๆ แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้ขำเลย ยิ่งคนไม่ดูมวยปล้ำด้วยแล้วล่ะก็’ Los Angeles Times
11. “Out Cold” (2001)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 22/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.5/10
‘ปลุกเร้าได้ดีเหมือนตอนอาบน้ำเย็นๆ ในหน้าหนาวเลยล่ะ’ Entertainment Weekly
10. “Double Take” (2001)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 25/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘แสดงมุมมองของความไร้การศึกษาได้โดดเด่นเลยทีเดียว’ San Francisco Chronicle
9. “Whatever It Takes” (2000)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 20/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.5/10
‘ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวเลยที่รู้สึกดีกับเรื่องนี้’ Miami Herald
8. “Marci X” (2003)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 20/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘เล่นเหมือนรายการวาไรตี้ที่ควรจะจบไปตั้งนานแล้ว ที่ไม่มีแม้แต่สคริปต์’ Variety
7. “Valentine” (2001)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 18/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘รู้สึกเหมือนดูอะไรจืดๆ ชืดๆ’ The New York Times
6. “Deuces Wild” (2001)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 16/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.6/10
‘เหมือนพยายามจะทำเป็น MV ยังไงยังงั้นแหละ’ The New York Times
5. “Extreme Days” (2001)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 17/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.9/10
‘อะไรๆ ก็เหมือนจะดูดีนะ แต่ออกมาสะเหร่อไปหมด’ Entertainment Weekly
4. “Darkness” (2004)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 15/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.8/10
‘เหมือนเอาอะไรหลายๆ อย่างมาผสมปนเปกันมากเกินไป และมีตอนจบที่ตัดจบแบบอึ้งไปอีกเบาๆ’ Entertainment Weekly
3. “Kung Pow: Enter the Fist” (2002)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 14/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.7/10
‘ขอไม่นับเรื่องนี้เป็นหนังได้มั้ย?’ The A.V. Club
2. “Screwed” (2000)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 7/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.0/10
‘นี่มันละครภาคค่ำปลอมตัวมาชัดๆ’ Variety
1. “Transylmania” (2009)
คะแนนจากนักวิจารณ์: 8/100
คะแนนจากผู้ชม: 8.7/10
‘มุขไม่ฮาแถมยังพาเครียด ไม่มีอะไรที่มีคำนิยามใกล้เคียงกับคำว่าความสนุกแม้แต่น้อย’ The Hollywood Reporter
เอิ่มมม จะว่าไปแล้ว นี่ก็คืออีกหนึ่งกรณีของการที่แฟนๆ และผู้ชมทั่วไปเข้าไปดูหนังด้วยความสนุกๆ ฮาๆ กันรึเปล่า ส่วนนักวิจารณ์เขาก็ต้องดูองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ที่ต้องวิเคราะห์ เลยอาจทำให้เครียดแบบนี้นี่แหละ ฮร่าาาา
ที่มา: BusinessInsider
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.