ดูเหมือนว่าปัญหาความขัดแย้ง ที่เกิดจากการแบ่งแยกชาติพันธุ์ ศาสนา ความเชื่อ หรืออุดมการณ์ มีท่าทีว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คำถามคือเราควรจะทำอย่างไรดีล่ะ ที่จะช่วยให้ทุกคน ทุกเชื้อชาติ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข บนพื้นฐานแห่งความเข้าใจในความต่างของกันและกัน
และบังเอิญว่า #เหมียวบ็อบ ได้ไปเจอกับโฆษณาที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานจากเว็บไซต์ชื่อดัง ‘Amazon’ ซึ่งเป็นโฆษณาเกี่ยวกับบริการ ‘Amazon Prime’ (บริการขนส่งด่วน)
แต่ทว่าเนื้อหาในคลิปวิดีโอ ชวนให้เราย้อนกลับมาคิดถึงความสงบสุขในสังคมที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง มันดีซะจนต้องเอามาบอกต่อ…
เราไปชมโฆษณาที่แอบแฝงความน่ารักไว้กันก่อนเลย
ซึ่งในโฆษณาเราจะได้เห็นเรื่องราวของ สองผู้นำทางศาสนา ที่ถึงแม้ว่าเขาจะต่างความเชื่อกัน แต่พวกเขาคือเพื่อนสนิทต่อกัน และมักจะเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ
แต่ทว่าทั้งคู่ต่างประสบปัญหาเดียวกัน ด้วยอายุอานามที่มากตามตัวเลข ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บเข่าทุกครั้ง ที่ต้องเข้าประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
เป็นภาพที่น่าปลาบปลื้มสุดๆ เพราะทั้งคู่ต่างก็ใช้แอพฯ ในโฆษณา สั่งซื้อสนับเข่ามาให้กันและกัน เพื่อที่จะได้ป้องกันอาการบาดเจ็บตรงหัวเข่า ถึงแม้ว่าพิธีกรรมทางศาสนาของเขาทั้งสอง จะแตกต่างกันก็ตาม
และที่น่าปลาบปลื้มยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ ในชีวิตจริงพวกเขาไม่ใช่นักแสดง ต่างคนต่างเป็นผู้นำทางศาสนาของจริง อีกทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทที่ซี้กันมาอย่างยาวนานอีกด้วย
ทางด้านของอิหม่าม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “อันที่จริงเราไม่ได้แสดงอะไรเลย เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ผมคิดว่าสิ่งที่โฆษณาต้องการจะสื่อเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะคนจากพื้นฐานที่ต่างกัน สามารถส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้กันได้
และในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายนี้ โฆษณาทำให้เห็นพลังด้านบวก ของผู้ที่มีความเชื่อต่างกัน แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข”
ผลงานโฆษณาชิ้นนี้โดนใจชาวเน็ตสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ
“ทำไมอเมริกาตอนนี้ถึงไม่เป็นเหมือนในโฆษณา ขอบคุณ Amazon ที่ทำให้เรารู้สึกมีความหวัง และทำให้เราร้องไห้”
“พวกเธอเห็นโฆษณาที่เกี่ยวกับบาทหลวง และชาวมุสลิมมั้ย? ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากเลย ในโลกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง พวกเราทุกคนยังมีความรักเป็นตัวเลือก”
ถึงแม้ว่าเราทุกคนจะมีอุดมการณ์ หรือความเชื่อที่ต่างกัน แต่เมื่อไหร่ที่เราเปิดใจยอมรับในความแตกต่าง และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ความสงบสุขก็จะบังเกิดขึ้น…
ที่มา: Distractify
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.