5 สถานที่น่าสนใจที่สุดของโลก แต่ก็ถูกจัดเป็นความลับและห้ามเข้าถึงที่สุดเช่นกัน…

ในโลกนี้เต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจมากมายที่เราไม่เคยไปมาก่อน และเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถไปได้นั้น เพราะมันอยู่ห่างไกลและเข้าถึงยากรวมทั้งอาจเป็นสถานที่ต้องห้ามด้วย

อย่างเช่นสถานที่ต่อไปนี้ ที่น่าสนใจ มีความดึงดูดนักท่องเที่ยวและเหมาะแก่การไปผจญภัย แต่ทว่ามันก็ยังเป็นสถานที่ที่ถูกซ่อนไว้อยู่ดีและไม่มีใครเคยเข้าไป เพราะมันเป็นสถานที่ต้องห้ามนั่นเอง

1. ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน Mount Weather รัฐเวอร์จิเนีย

ผู้ที่จะเข้าไปยังสถานที่นี้ได้ ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้น… Mount Weather เป็นที่หลบภัยลับของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายในมีศูนย์ปฏิบัติการ FEMA ถูกซ่อนอยู่ โดยจะทำหน้าที่คอยรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในประเทศ

โครงสร้างบางส่วนของศูนย์ปฏิบัติการนี้ถูกสร้างอยู่เหนือพื้นดิน มีการบริหารจัดการและดูแลความปลอดภัยรอบด้าน นอกจากพวกเขาไม่ได้ใช้กฏหมายเดียวกับภายนอก แต่มีกฏหมายของตัวเอง ดังนั้นบุคคลภายนอกห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

ที่มา wikipedia l theguardian

2. ห้องนิรภัย Svalbard ที่เก็บเมล็ดพันธุ์จากทั่วโลก ประเทศนอร์เวย์

เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ…เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ในเกาะแห่งหนึ่งของ Spitsbergen ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 120 เมตร ภายในเป็นอุโมงค์ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 10 องศาเซลเซียส โดยจะควบคุมให้มีความชื้นน้อยที่สุด ส่วนปากอุโมงค์นั้นควบคุมด้วยระบบอัฒโนมัติ

ความสำคัญของสถานที่แห่งนี้คือ เป็นความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติและเป็นแห่งฟื้นฟูธรรมชาติที่ดีที่สุดเมื่อเกิดภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด เพราะในนี้จะเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ต่างๆ จากทั่วโลกไว้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ให้คนภายนอกเข้า เพราะหากเมล็ดพันธุ์ได้รับความเสียหาย มันจะส่งผลต่อความอยู่รอดของมนุษย์อย่างร้ายแรง

ที่มา wikipedia

3. หุบเขา Vale do Javari  ประเทศบราซิล

เป็นสถานที่พิเศษเพื่อปกป้องชนเผ่าพื้นเมือง…นี่คือชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในป่าอะเมซอนมาหลายศตวรรษ พวกเขามีวิถีการดำรงอยู่ของตัวเองโดยไม่ถูกบุกรุกจากโลกภายนอก เช่นเดียวกับรูปภาพนี้ที่ถ่ายจากมุมสูงเพื่อไม่เป็นการรบกวนพวกเขา

ในหุบเขา Vale do Javariมีประมาณ 14 ชนเผ่าที่ไม่ความรู้หรือประสบการณ์เกี่ยวกับโลกภายนอก และดำเนินชีวิตด้วยทรัพยากรธรรมชาติล้วนๆ

ต่อมานักวิจัยก็ได้ค้นพบอีก 8 หมู่บ้านที่นั่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีประชากรเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอีกถึง 2,000 คนเลยทีเดียว

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและการรักษาวิถีชีวิตของพวกเขา รัฐบาลจึงห้ามผู้คนเข้าไปยังป่าอเมซอน ซึ่งเป็นป่าดงดิบที่มีพื้นที่ประมาณ 77,000 ตารางกิโลเมตร

ที่มา wikipedia

4. คลับ 33 เมืองนิวออร์ลีนส์

สมาคมลับที่บุคคลภายนอกห้ามเข้า…ในปี 1967 วอลท์ดิสนีย์ได้ก่อตั้งสโมสร ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของนักลงทุนที่มีชื่อเสียง บุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง และนักการเมืองภายใต้อาคารเดียวกัน

คลับ33 ไม่เคยเชิญคนภายนอกเข้ามา แม้แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ไม่พบเบาะแสหรือความลับใดๆ จากที่นี่ แต่ก็มีข่าวลือว่า ไม่เพียงแต่สมาชิกเท่านั้นที่เข้าได้ หากใครที่อยากเข้าไปต้องรอถึง 14 ปี และจ่ายค่าเข้าเกือบ 400,000 บาทต่อคน หรือประมาณ 1 ล้านบาทถ้าจะเอาเพื่อนไปด้วย

นอกจากนี้ คนที่เป็นสมาชิกที่นี่ต้องจ่ายปีละ 100,000 บาท หรือ 200,000 บาทตามลำดับเพื่อเป็นการรักษาจำนวนสมาชิกของคลับ33

ที่มา wikipedia, club33disneyland

5. เกาะแม่เหล็กแห่ง Es Vedrà ประเทศสเปน

เป็นสถานที่ปิดเพื่อป้องกันผลกระทบจากพลังงานที่คาดไม่ถึง…เกาะหิน Es Vedra เป็นหนึ่งในหมู่เกาะนอกชายฝั่งของสเปน และมีรายงานว่า มันเป็นหินที่มีพลังงานคลื่นแม่เหล็กสูงสุดถึง 3 ระดับที่มีผลกระทบต่อโลก (ระดับแรกกับสองเป็นสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ส่วนสามเป็นขั้วโลกเหนือ)

ที่นี่จะไม่มีโลหะเลย แต่ทุกอย่างเกิดจากหินภูเขาไฟ และเข็มทิศไม่สามารถจะใช้กับที่นี่ได้ เพราะลูกศรจะแกว่งไปมาในทิศทางที่แตกต่างกันตลอดเวลา

ดังนั้น Es Vedrà ก็จึงถูกรัฐบาลสเปนซ่อนไว้ และประกาศไม่ให้ผู้คนเข้าไป เพราะนอกจากเป็นสถานที่ที่มีเรื่องเล่าลึกลับแล้ว มันยังเป็นแหล่งธรรมชาติสำรองด้วย

ในขณะเดียวกัน ก็มีบางคนออกมาบอกว่า เคยมีบริการนำเที่ยวผิดกฏหมายได้พานักท่องเที่ยวมายังเกาะนี้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้นสิ่งที่คุณทำได้อย่างถูกฏหมายคือ การมองเกาะนี้จากชายฝั่งเท่านั้น

ที่มา wikipedia

แต่ละที่ทั้งแปลกและมีความสำคัญมากๆ ดังนั้นต่อให้อยากไปแค่ไหนก็คงต้องเคารพกฏของแต่ละที่ด้วยนะ

ที่่มา brightside