สงสัยว่าจะไม่ได้มีแค่ ‘แมว’ เท่านั้นล่ะมั้ง ที่คิดจะยึดครองโลกนี้แบบไม่ทันให้เราได้ตั้งตัว เพราะล่าสุดจากการรายงานข่าวของ Dailymail เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ข่าวระบุว่า ช่างภาพนาม ‘Rick Beldegreen’ ได้เก็บภาพปรากฏการณ์อันน่าประหลาดใจบางอย่าง เมื่อจู่ๆเหล่าวอลรัสนับพันชีวิต ต่างขึ้นมารวมตัวกันบนชายหาดหนึ่งของเกาะ ‘Aleutian’ ในรัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐฯ
ซึ่งเดิมทีช่างภาพคนนี้ ได้เดินทางมาจากเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ท แคโรไลน่า เพื่อตามเก็บภาพของเจ้าวอลรัส แต่ทว่าเขากลับต้องอึ้ง เมื่อมาถึงแล้วพบว่า พวกมันมารวมตัวกันเยอะเหลือเกิ๊นนนน
และนี่ก็คือภาพที่ช่างภาพหนุ่มคนนี้มาเจอเข้า พวกมันนับพันตัวกำลังนอนเบียดกันอยู่ริมหาด อย่างสุขสบาย เหมือนว่าเมื่อคืนปาร์ตี้กันมาอย่างหนักเลยล่ะ
ปกติแล้วพวกมันเป็นสัตว์น้ำ และสัตว์สังคม ที่มักจะอาศัยอยู่ในแถบขั้วโลกเหนือ แต่การที่จู่ๆมีวอลรัสนับพันตัว มานอนเบียดกันอยู่ริมหาด เป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า พวกมันน่าจะอพยพมาพร้อมกัน เนื่องจากบริเวณน้ำแข็งที่ใช้อาศัยอยู่เกิดละลายลงมา ทำให้พวกมันต้องรีบย้ายหาที่นอนพักผ่อนแห่งใหม่
เห็นอ้วนๆกลมๆแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วตัวนึงจะมีน้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน อาหารโปรดของมันก็คือหอยที่พบใกล้พื้นมหาสมุทร อีกทั้งยังใช้หนวดในการตรวจจับหาอาหารอีกด้วย
ผิวหนังของมันจะหนามาก เพื่อการอยู่รอดในสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ เมื่อโตเต็มที่อาจจะตัวใหญ่ได้มากถึง 3.5 เมตร เลยทีเดียว
อ้างอิงจาก National Geographic วอลรัสมีอยู่สองประเภท หนึ่งคือแอตแลนติควอลรัส อาศัยอยู่ตามฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของแคนาดา และกรีนแลนด์
และอีกประเภทคือ แปซิฟิควอลรัส พวกมันมักจะอาศัยอยู่บริเวณทะเลทางตอนเหนือของรัสเซีย และอลาสก้า
จากกลุ่มพิทักษ์สัตว์เผยว่า ปัจจุบันมีจำนวนประชากรวอลรัสทั้งสองสายพันธุ์รวมแล้วประมาณ 450,000 ตัวทั่วโลก
เพราะก่อนหน้านี้มันถูกล่าไปเป็นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม น้ำมัน หรือแม้แต่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ผลิตจึ้นมาจากอวัยวะของมัน แต่ปัจจุบันการล่าวอลรัส ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฏหมายในสหรัฐฯ
และสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ยังสะท้อนให้เราเห็นถึงภาวะโลกที่ร้อนมากขึ้น แม้แต่น้ำแข็งในแถบขั้วโลกเหนือยังละลาย จนพวกมันต้องอพยพหาแหล่งอาศัยใหม่
ถึงจะเป็นภาพที่ดูน่ารักสุดๆ แต่อีกแง่หนึ่งกลับสะท้อนปัญหาสภาพแวดล้อมของโลกเราที่เปลี่ยนแปลงไป
และคงไม่มีสัตว์ชนิดไหนจะทำลายโลกได้ดีเท่า มนุษย์เราอีกแล้ว
ที่มา: Dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.