ในความเข้าใจของพวกเรา ไดโนเสาร์นั้นเป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ที่มีความดุร้าย มีผิวหนังหยาบกร้านและไร้ขน เราจะเห็นได้จากสารคดีหรือภาพยนตร์ดังอย่าง Jurassic Park หลายๆ ภาค
แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่ง เช่น CNN , Nationalgeographic หรือ Theguardian ได้ออกมารายงานว่ามีการค้นพบ “หางไดโนเสาร์” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แล้ว
ตามรายงานบอกว่าผู้ค้นพบหางไดโนเสาร์ชิ้นนี้มีชื่อว่า Xing Lida เป็นนักบรรพชีวินวิทยาชาวจีน เขาค้นพบมันในแทบตอนเหนือของประเทศพม่าใกล้กับชายแดนของจีน จากการตรวจสอบก้อนอำพันก้อนนี้ คาดว่าน่าจะมีอายุราวๆ 99 ล้านปี
Xing ได้ให้สัมภาาณ์ผ่าน CNN ว่า “ผมมาคิดได้ว่าสิ่งที่อยู่ในอำพันนั้นน่าจะมาจากสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง อาจจะเป็นเทอโรพอด (มีลักษณะคล้ายทีเร็กซ์แต่ตัวเล็กกว่า) มากกว่าจะเป็นสัตว์ชนิดอื่นๆ”
ด้านนาย Ryan McKellar นักบรรพชีวินวิทยา จากพิพิธภัณฑ์ Royal Saskatchwan Museum ในประเทศแคนาดาและเป็นผู้ศึกษาอำพันชิ้นนี้ด้วยได้กล่าวว่าเขารู้สึกตกตลึงมากที่นาย Xing นำอำพันมาให้เขาดูเป็นครั้งแรก “มันเป็นครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตเลยก็ว่าได้ มันคือข้อมูลที่ดีที่สุดและอยู่ในรูปของ 3 มิติ”
นาย McKellar ยังได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมด้วยว่าความจริงแล้วพวกไดโนเสาร์อาจจะไม่ได้มีหางเรียวๆ โล้นๆ แบบพวกหนู
เพราะจากการค้นพบซากขนในอำพัน ทำให้เรามองเห็นรูปร่างและสีสันของมันคล้ายกับขนนกมากกว่า บางทีผิวหนังของมันอาจจะไม่ได้เป็นเกร็ดแบบ Godzilla อย่างที่เราคิดกัน แต่ปกคลุมไปด้วยขนปุกปุยมากมาย
อันที่จริงแล้วเคยมีการค้นพบขนของไดโนเสาร์มาก่อนหน้านี้แล้วในปี 1996 แต่นั่นเป็นเศษขนเล็กๆ เท่านั้น แต่ครั้งนี้เป็นการค้นพบขนของสัตว์ที่มาพร้อมกับโครงกระดูกแบบสมบูรณ์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าใจถึงรูปร่างสัตว์ได้มากกว่าในอดีต
นี่คือภาพของ Xing Lida และ Ryan McKellar กำลังช่วยกันตรวจสอบอำพัน จากภาพจะเห็นได้ว่าก้อนอำพันที่ว่านี้มีขนาดเล็กมากพอๆ กับลูกเกาลัดลูกหนึ่ง
หรือความจริงแล้วพวกไดโนเสาร์อาจจะไม่ได้มีรูปร่างโล้นๆ
มีแต่ผิวหนังเหมือนอย่างที่เรารับรู้กันจาก Jurassic Park ก็ได้
ที่มา cnn , nationalgeographic
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.