หากพูดถึงกลุ่มผู้ก่อการร้าย หลายๆ คนน่าจะนึกถึงชื่อ “ไอซิส” ในอีรักและซีเรีย ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ เพราะมีประวัติการก่อการร้ายและฆ่าผู้คนที่โหดเหี้ยมแทบจะรายวัน
แต่วันนี้เราจะมานำเสนอชื่อของกลุ่มก่อการร้านอีกกลุ่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “โบโก ฮาราม” ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้านในประเทศไนจีเรีย ที่ก่อวีรกรรมมาไม่น้อยไปกว่ากัน
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ ที่มีการใช้เด็กผู้หญิงวัย 7 ขวบ 2 คน เพื่อเป็นระเบิดพลีชีพโจมตีตลาดสดแห่งหนึ่งในเมืองไมดูกูรี ประเทศไนจีเรีย
การระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม รัฐบอร์โน ทำให้เด็กสาววัย 7 ขวบ 2 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดกว่า 18 คน
ตามรายงานบอกว่ากลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้มักจะใช้หญิงสาวเพื่อเป็นอาวุธหรือระเบิดมนุษย์ ในโจมตีสถานที่ต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งทางการของไนจีเรียเชื่อกันว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม แต่ยังไม่มีฝ่ายไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ทหารคนหนึ่งจากกลุ่มทหารอาสาสมัครในเมืองไมดูกูรีกล่าวว่าเขาคือคนสุดท้ายที่เห็นเด็กหญิงทั้ง 2 คนก่อนที่จะจุดระเบิดตัวเอง “พวกเขาลงมาจากรถลากคันหนึ่งและเดินตรงมาที่ผมโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ผมพยายามจะพูดกับพวกเขาด้วยภาษาท้องถิ่นและภาษาอังกฤษ แต่พวกเขากลับไม่ตอบผม”
“ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะกำลังมองหาแม่ของตัวเองอยู่ จากนั้นพวกเธอก็เดินไปยังร้านของพ่อค้าขายไก่ในตลาด และจุดชนวนระเบิดที่พวกพวกเขาพกติดตัวมาด้วย”
กลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮารามนั้นเริ่มก่อความไม่สงบมาตั้งแต่ปี 2009 และถ้านับกันถึงตอนนี้ ก็มีประชาชนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของพวกเขาไปแล้วกว่า 20,000 คน และมีผู้คนอีกกว่า 2.5 ล้านคนที่ต้องไร้ที่อยู่อาศัยเนื่องจากถูกถล่มโดยผู้ก่อการร้ายไปอย่างน่าสลด
กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ออกมากล่าวว่ามีหญิงสาวและเด็กผู้หญิงได้ถูกกลุ่มโบโก ฮารามลักพาตัวไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ที่โด่งดังสุดๆ เลยคือเหตุการณ์ในปี 2014 มีเด็กหญิงกว่า 300 คนถูกลักพาตัวไปจากโรงเรียนในรัฐบอร์โน
เพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มชาวมุสลิมสุดโต่งในราคาเพียง 360 บาท เพราะพวกเขาเชื่อกันว่าหญิงสาวไม่ควรได้รับการศึกษาและนั่นถือเป็นบาปมหันต์
และเมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2016 ที่ผ่านมาก็มีข่าวอีกว่ากลุ่มโบโก ฮารามได้ใช้หญิงสาวคนหนึ่งเพื่อเป็นระเบิดพลีชีพฆ่าคน 17 คนในในสถานีใกล้กับที่ตั้งแคมป์ของผลัดถิ่นภายในประเทศไนจีเรีย
ทั้งหมดนี้อาจดูเป็นเรื่องราวที่โหดร้ายอยู่สักหน่อย แต่#เหมียวฟิ้นก็จำเป็นต้องนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้ชาวไทยได้ทราบกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกภายนอกบ้าง
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.