ไม่เคยมีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในสงคราม ไม่มีใครถูกหรือผิดที่แท้จริง เพราะทุกฝ่ายต่างผิดกันทั้งนั้น…
จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศซีเรียอยู่ในขณะนี้ ทั้งโลกต่างจับตามองกันอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศซีเรียเองนั้นก็ได้รับผลกระทบมากมาย ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย หรือแม้แต่เด็กกับผู้สูงอายุก็ด้วย
เพราะทุกที่ที่มีสงครามเกิดขึ้นนั้นย่อมทำให้มีผู้คนล้มตาย และด้วยความโหดร้ายของทัศนคติของผู้ทำสงคราม ก็ทำให้ประชาชนเกิดความหวั่นวิตกเสมือนชีวิตถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย
และล่าสุดสงครามการปะทะกันระหว่างกองกำลังต่อต้านรัฐบาล กับกลุ่มกองกำลังของรัฐบาล Assad ก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้กับเมือง Aleppo ทุกที ชาวเมืองที่อยู่ที่นั่นก็เริ่มออกมาโพสต์ทวิตเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาบุคคลอันเป็นที่รักและบอกลาโลกใบนี้
เพราะไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยพวกเขา ที่ทำได้ก็มีแต่รอความตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเพราะเหตุใดชาวเมืองถึงไม่อพยพหนีไปล่ะ? นั่นก็เพราะว่าในขณะนี้ไม่ว่าพื้นที่ไหนในประเทศซีเรียก็กำลังถูกกองกำลังฝั่งรัฐบาลยึดไว้หมดแล้ว เหลือแต่เมือง Aleppo เท่านั้นที่ยังคงเป็นที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกองกำลังต่อต้านรัฐบาล
ซึ่งกลุ่ม Assad นั้นเป็นกลุ่มทหารของรัฐบาลซีเรียซึ่งเป็นเผด็จการและได้ปกครองประเทศซีเรียมาอย่างยาวนาน
ส่วนฝ่ายกบฏนั้นก็เกิดจากกลุ่มประชาชนหัวรุนแรงที่นับถือนิกายซุนนีย์ ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐบาลจึงรวมตัวกันออกมาต่อต้าน แต่ภายหลังก็แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มกบฏดั้งเดิมกับกลุ่ม ISIS เพราะผู้นำมีความเห็นไม่ตรงกัน
แต่กลุ่ม ISIS ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการรบของ Assad และกลุ่มกองกำลังต่อต้านแต่อย่างใด แต่มีเป้าหมายในการขยายอิทธิพลขึ้นไปทางตุรกีเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังก่อสงครามและสร้างความรุนแรงให้กับทุกที่ที่แผ่อิทธิพลไปถึง
นอกจากนี้ก็มีการยื่นมือเข้ามามีเอี่ยวของเหล่ากองกำลังจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอิรัก รัสเซีย หรืออเมริกาก็ตาม ซึ่งทุกคนต่างก็มีเหตุผลที่จะเลือกสนับสนุนแต่ละกลุ่มแตกต่างกันออกไป
และนี่คือแผนผังความสัมพันธ์ของแต่ละประเทศที่อยู่ทางในแถบยุโรปตะวันออก
การสู้รบของกองกำลังต่อต้านกับกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลยังดำเนินต่อไป มีชาวเมืองผู้บริสุทธิ์มากมายได้รับลูกหลงมากมายจนถึงแก่ชีวิต
(สามารถเข้าไปอ่านเรื่องราวสงครามกลางเมืองของซีเรียเพิ่มเติมได้ที่ wikipedia)
จนในที่สุดก็เหลือที่ Aleppo เป็นที่สุดท้าย และสงครามก็เข้าใกล้เข้าไปทุกที ทางประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจึงได้ออกมาโพสต์ลงบนทวิตเตอร์เพื่อบอกลาคนรัก และบอกลาโลกใบนี้
“บางที นี่คงเป็นข้อความสุดท้ายของผมจาก Aleppo กองกำลังฝ่ายต่อต้านได้เข้ามาใกล้แล้ว และลูกระเบิดปืนใหญ่ก็เริ่มถูกยิงมาราวกับเป็นห่าฝน”
“ข้อความสุดท้าย – ผมรู้สึกเศร้ามากไม่มีใครในโลกนี้ให้ความช่วยเหลือแก่เราเลย ไม่มีใครช่วยพาผมและลูกสาวออกไป ลาก่อน – จาก Fatemah”
“ข้อความสุดท้าย – ผู้คนเริ่มล้มตายลงเรื่อยๆ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ผมรู้สึกแปลกใจมากที่ผมกำลังโพสต์ทวิตอยู่ในเวลานี้และยังมีชีวิตอยู่ – จาก Fatemah”
“พ่อของหนูบาดเจ็บ หนูกำลังร้องไห้ – จาก Bana”
“หนูชื่อ Bana อายุ 7 ขวบ ตอนนี้หนูขอบอกให้โลกรับรู้ไว้ว่าหนูกำลังอยู่ที่ทางตะวันออกของ Aleppo นี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของหนู ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย – จาก Bana”
“Lamar เดินเข้ามาหาผม เพื่อให้ผมอุ้มเธอขึ้นมา ผมจะได้เจอเธออีกมั้ยในวันพรุ่งนี้?”
“ผมสามารถโพสต์ทวิตได้ แต่ผมอาจจะทำมันไม่ได้ไปอีกตลอดชีวิต ได้โปรดช่วยชีวิตลูกสาวผมและคนอื่นๆ ด้วย นี่เป็นความปรารถนาของพ่อ”
“ข้อความสุดท้าย ขอขอบคุณสำหรับทุกอย่าง พวกเราผ่านอะไรต่อมิอะไรมาด้วยกันมาก ทวีตสุดท้ายจากพ่อ ลาก่อน”
นอกจากนี้เขายังไลฟ์สดให้เห็นบรรกาศของสงครามที่กำลังปะทุขึ้นอีกด้วย โดยมีเสียงปืนดังอยู่เป็นพักๆ
“ข้อความที่ผมได้รับมาจากทางตะวันออกของ Aleppo ก็คือการบอกลา มันน่ากลัวมาก โลกที่กว้างใหญ่ มนุษยชาติได้สูญสิ้นแล้ว”
“สำหรับคนที่อาศัยอยู่ใน Aleppo และส่งข้อความการบอกลาครั้งสุดท้ายมา ขอบคุณมาก พวกคุณทำมากเกินกว่าส่วนที่พวกคุณต้องทำแล้ว ซึ่งพวกเราเองก็ไม่ได้ทำในส่วนของเราเลย”
และสถานการณ์ล่าสุดทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ก็ได้มีการแจ้งต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า การสู้รบทางฝั่งตะวันออกของเมือง Aleppo ได้สิ้นสุดลงแล้ว และกองกำลังของรัฐบาลหรือ (Assad) สามารถเข้ายึดครองพื้นแห่งสุดท้ายของกลุ่มกองกำลังต่อต้านได้เรียบร้อยแล้ว
ทำให้รัฐบาลของซีเรียมีชัยนะในการควบคุมเมืองใหญ่ทั้ง 4 แห่งของประเทศซีเรียเอาไว้ได้ในที่สุด
ก่อนการประกาศสิ้นสุดการสู้รบ องค์การสหประชาชาติได้ออกมาประณามการยิงสังหารพลเรือน 82 คนในพื้นที่ที่ฝ่ายรัฐบาลเข้ายึดครองสำเร็จ ซึ่งคาดว่าเป็นฝีมือของกองกำลังชีอะห์จากอิรักที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรีย
ก่อนหน้านี้ กองกำลังฝ่ายกบฏราว 1,500 คน ถูกต้อนให้เข้าไปอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ พร้อมกับพลเรือนหลายหมื่นคน โดยขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ และการรักษาพยาบาล
แต่อย่างไรก็ตาม สงครามกลางเมืองของซีเรียจะยังคงไม่สิ้นสุดลงหลังฝ่ายรัฐบาลเข้ายึดครองอเลปโป เนื่องจากกลุ่มกบฏจำนวนมากได้ล่าถอยไปยังพื้นที่ยึดครองของตนซึ่งยังคงมีอยู่เป็นบริเวณกว้างทางตอนใต้ของเมืองและในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ
ไม่เคยมีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในสงครามหรอก…ขอให้ผู้เสียชีวิตทุกคนไปสู่สุขตินะครับ
ที่มา : distractify, wikipedia, BBC
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.