โลกของเรานั้นยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา…แต่สำหรับหนูน้อย Bradley แล้ว นี่อาจเป็นเรื่องดีๆ ที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา
Bradley Lowery หนูน้อยวัย 5 ขวบต้องเผชิญกับโรคมะเร็งต่อมหมวกไตมาตั้งแต่เกิด ทำให้เขาต้องเข้ารับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง
และต้องขอบอกเลยว่าเขาเป็นคอฟุตบอลตัวยงเลยล่ะ และทีมสุดโปรดของเขาก็คือทีมที่มีฉายาว่าแมวดำ Sunderland นั้นเอง
เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทีม Sunderland ได้เปิดโอกาสให้หนูน้อย Bradley เดินลงสนามในฐานะมาสค็อตครั้งแรก ในเกมที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของท็อฟฟี่สีน้ำเงิน Everton
ถือเป็นการบอกให้ทั้งโลกรับรู้เรื่องราวของแฟนบอลตัวน้อยๆ คนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งอยู่
จากนั้นไม่นานก็มีคนร่วมบริจาคเงินมากกว่า 31 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้กับหนู Bradley
นอกจากทีม Sunderland ที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่ในการช่วยเหลือด้านการเงินแล้ว ทีม Everton เองก็ได้สมทบทุนช่วยมาอีก 9 ล้านบาท
และเรื่องราวน่ารักๆ ยังไม่หมดลงแค่นี้ มีแฟนบอลมากมายเขียนการ์ดวันคริสต์มาสส่งไปที่บ้านของหนู Bradley เพื่ออวยพรให้เขาหายป่วยโดยเร็ว และขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น มากกว่า 11,000 ใบเลยทีเดียว
และเมื่อคืนที่ผ่านมาหนูน้อย Bradley ก็ถูกเชิญไปเป็นมาสค็อตนำทีมที่ตนรักเดินลงสนามอีกครั้งในเกมที่เปิดบ้านพบกับจ่าฝูงอย่างทีม Chelsea
ในช่วงก่อนการแข่งขัน หนูน้อย Bradley ได้มีโอกาสลงไปร่วมอบอุ่นร่างกายร่วมกันกับเหล่านักเตะของทีม Sunderland และ Chelsea พร้อมกับสวมเสื้อของทีม Sunderland สกรีนชื่อ Bradley ไว้ข้างหลัง
เขามีโอกาสได้ดวลจุดโทษกับ Asmir Begovic นายทวารมือสำรองของทีมเชลซี พร้อมกับมีกองหน้าที่ทำประตูสูงที่สุดของทีมอย่าง Diego Costa เป็นคนแนะนำทริคให้
หลังจากที่ยิงเข้าไปแล้วก็มีป้ายขึ้นที่จอโปรเจคเตอร์ของสเตเดี้ยมเป็นรูปเสื้อของทีม Sunderland ที่มีชื่อ Lowery พร้อมกับหมายเลข 5 เท่ากับอายุของเขาพอดี พร้อมกับขึ้นสกอร์บอร์ดให้ด้วยว่า Sunderland ออกนำ Chelsea 1 ประตูต่อ 0
ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปร่วมกันกับเหล่านักเตะชุดใหญ่ของทีมสิงโตน้ำเงินคราม Chelsea
สิ่งเหล่านี้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่แสนวิเศษที่สุดสำหรับเขา เพราะจากการไปรักษาที่อเมริกากลับมา คุณหมอได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายเจ้ามะเร็งร้ายก็ชนะ คุณหมอวินิจฉัยว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น
เป็นเรื่องราวที่แสนเศร้า แต่อีกนัยหนึ่งก็ทำให้รู้ว่าบนโลกของเรานั้นยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา T T
ที่มา: mirror, dailymail ผ่านทาง: Football Vintage
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.