นับวันยิ่งดูเหมือนว่าสัตว์โลกนานาชนิด เริ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากมนุษย์ทุกคนยังคงล่าพวกมันเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางอุตสาหกรรม หรือทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของพวกมันด้วยเช่นกัน
และล่าสุดจากสำนักข่าว Metro ได้ระบุว่า กลุ่มนักวิทย์ฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านเสือชีต้าร์ ได้ออกมาเตือนแล้วว่า ถ้าหากไม่รีบแก้ปัญหาจำนวนประชากรของพวกมันที่ลดลงเรื่อยๆละก็ อีกไม่ช้าพวกมันจะต้องกลายเป็นสัตว์สูญพันธ์แน่ๆ
เห็นแบบนี้เค้าเป็นญาติกับแมวเหมียวนะ
ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน ‘Zoological Society of London and the Wildlife Conservation Society’ ได้รายงานว่าปัจจุบันในอิหร่าน มีจำนวนประชากรเสือชีต้าร์อยู่เพียงแค่ไม่ถึง 50 ตัวเท่านั้น!!
เช่นเดียวกันกับในประเทศซิมบับเว ในช่วงเวลาแค่ 16 ปี กลับส่งผลให้ประชากรของมันลดลงไปจากเดิมประมาณ 1,200 ตัว ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 170 ตัวเท่านั้น การลดลงนั้นคิดเป็น 85% ซึ่งเป็นตัวเลขอันน่าเป็นห่วงมาก
ในอดีตทั้งสองพื้นที่นี้นับว่าเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยหลักของพวกมัน และมีประชากร ‘เสือชีต้าร์’ อยู่มากเป็นอันดับต้นๆ เลยล่ะ
Dr. Sarah Durant ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “สาเหตุที่ทำให้จำนวนประชากรของพวกมันลดลงอย่างน่าใจหาย มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ การล่าสัตว์เพื่อนำอวัยวะของพวกมันไปใช้ในอุตสาหกรรม หรือค่านิยมการนำมันไปเลี้ยงเป็นสัตว์แปลกใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นการพรากมันออกจากถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม”
และด้วยความที่ ‘เสือชีต้าร์’ เป็นสัตว์นักล่าที่ต้องการพื้นที่ขนาดกว้างขวางอย่างมาก ในการดำรงชีวิต จึงทำให้ยากต่อการที่จะดูแลให้ทั่วถึงได้
Dr. Kim Young จากทีมอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ ได้กล่าวไว้ว่า “สำหรับตอนนี้เราต้องเปลี่ยนจากเดิมที่พวกมันเป็นสัตว์หายาก ให้กลายเป็นสัตว์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายควรจะช่วยกันปกป้อง และออกมาตรการในการเข้ามาดูแลให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ก่อนที่คนรุ่นต่อไปจะไม่มีโอกาสได้รู้จักคำว่า เสือชีต้าร์ อีกเลย”
นอกจากนี้ภาวะความเสี่ยงของมัน ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีนิสัยดุร้าย และชอบกินเนื้อ แต่เราก็ไม่อยากให้มันสูญพันธุ์ไปเลย เพราะอย่างน้อยมันก็มีเชื้อสายใกล้เคียงกับพวกเรา #แก๊งค์แมวเหมียว นะ
ที่มา: Metro
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.