หากเพื่อนๆ หลายคนที่เคยอ่านวรรณกรรมของจีน ไม่ว่าจะเป็นสามก๊ก หรือเรื่องราวของเจงกิสข่าน ก็คงเคยได้เห็นคำว่า ‘อาชาแห่งสวรรค์’ หรือ ‘อาชาเหงื่อโลหิต’ อันเป็นพาหนะที่เหล่านักรบที่มีชื่อเสียงของจีนผ่านหูผ่านตากันมาอย่างแน่นอน
แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเจ้าอาชาเหงื่อโลหิตนั้นไม่ได้มีชื่ออยู่ในวรรณกรรมเท่านั้นนะ เพราะมันมีอยู่จริงๆ!! แต่ที่เราไม่เคยรู้จักมันมาก่อนนั่นก็เพราะว่าเมื่อศตวรรษก่อนเหล่าอาชาจากสวรรค์นี้ต้องประสบปัญหากับการเกือบสูญพันธุ์ไปแล้วยังไงล่ะ
และในวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้าอาชาเหงื่อโลหิตนี้กันซักหน่อยก็แล้วกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปชมกันได้เลยจ้า…
อาชาเหงื่อโลหิตตามตำนานกล่าวไว้ว่าในยามที่มันออกวิ่งนั้น แผงคอจะมีเหงื่อไหลออกมาเป็นสีแดงคล้ายเลือด นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้วรูปร่างของมันยังดูแข็งแรงและบึกบึน สามารถใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไกลและแบกน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
และด้วยความหายากของมันจึงทำให้จักพรรดิหวู่ตี้ (ในยุคราชวงฮั่นตะวันตก) นิพนธ์บทกวียกย่องให้มันเป็นอาชาจากสวรรค์
อาชาเหงื่อโลหิตมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยมีชื่อเป็นภาษาเติร์กว่า Akhal-Tekin ที่แปลออกมาได้ว่า ‘สายเลือดอันบริสุทธิ์’ ปัจจุบันพวกมันเหลืออยู่เพียงประมาณ 1,200 ตัวบนโลก
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเพาะพันธุ์ม้าของประเทศจีนได้กล่าวเอาไว้ว่า อาชาเหงื่อโลหิตมีแหล่งกำเนิดอยู่ในเขตโอเอซิสของประเทศเติร์กเมนิสถานซึ่งผ่านการถูกเพาะเลี้ยงมายาวนานกว่า 3,000 ปี จนกลายเป็นม้าที่มีสายพันธุ์เก่าแก่มากที่สุดในโลกสายพันธุ์หนึ่ง
เนื่องจากว่าพวกมันมีจุดเด่นอยู่ที่ฝีเท้าเร็ว ร่างกายแข็งแรง มีความอดทนสูง มักจะถูกใช้ให้เป็นพาหณะในการเดินทางระยะไกล และส่วนในปัจจุบันจะถูกใช้ในพิธีการเดินสวนสนามในระดับสากล เพราะราคาของมันพุ่งขึ้นไปสูงกว่าตัวละ 350 ล้านบาท เลยทีเดียว!!
และทางประเทศเติร์กเมนิสถานก็ได้กำหนดให้เจ้าอาชาเหงื่อโลหิตนี้เป็นสมบัติของชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และใช้มันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติและตีพิมพ์ลงบนเหรียญกษาปณ์
ส่วนในเรื่องเหงื่อสีแดงเลือดตามตำนานอันเป็นที่มาของชื่อเรียกเจ้าม้าชนิดนี้ บ้างก็บอกว่าเป็นเพราะผิวหนังของพวกมันค่อนข้างบาง ทำให้เวลาวิ่งจึงทำให้เราสามารถมองเห็นเว้นเลือดได้อย่างชัดเจน
บ้างก็บอกว่าที่แผงคอของมันนั้นจะมีต่อมเหงื่อเยอะเป็นพิเศษ แล้วยิ่งถ้าตัวไหนมีขนสีน้ำตาลแดงก็จะทำให้ขนตรงบริเวณแผงคอกลายเป็นสีแดงคล้ายกับเลือด
แต่จากการตรวจสอบของนักวิชาการ ก็สรุปได้ว่าเหงื่อโลหิตนั้นเกิดจาก โรคหายากจากปรสิต ที่สามารถพบได้ในม้าบางสายพันธุ์เท่านั้น
ก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันนะว่าเรื่องราวที่อยู่ในตำนานนั้นจะมีอยู่จริงๆ และรูปร่างสีขนของมันก็ช่างสวยซะเหลือเกิน ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดถึงกลายเป็นพาหนะของบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่ในตำนาน
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.