ทฤษฎีวันสิ้่นโลก เมื่อมนุษย์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น โลกที่เราเคยรู้จัก จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป!!

คุณเชื่อหรือไม่ว่าโลกของเรามีอายุมานานกว่า 4.5 พันล้านปีแล้วนะ ในขณะที่มนุษย์อาศัยอยู่บนโลกใบนี้มาเป็นเวลาเพียง 200,000 ปีเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้เราได้เห็นถึงสภาพความเปลี่ยนแปลงของโลกไปมากเลยทีเดียว

แม้ว่าในปัจจุบันอัตราจำนวนประชากรโลกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าหากวันใดวันหนึ่งโลกของเราปราศจากมนุษย์ เรียกง่ายๆ คือมนุษย์สูญพันธุ์ไปจนหมดสิ้น มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง…

 

คลิปจากรายการ BBC Earth Unplugged

 

โดยทฤษฎีและบทวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น จะถูกสรุปใจความมาจากสารคดีของ BBC จากรายการ Earth Unplugged ซึ่งในแต่ละข้อจะเกิดขึ้นตามผลพวงที่มีความต่อเนื่องกันอย่างสมเหตุสมผล และมีความเป็นไปได้อยู่พอสมควร จะมีอะไรบ้างตามมาอ่านกันได้เลย

 

หลังจากไม่กี่ชั่วโมง

เมื่อมนุษย์สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ ผลที่จะตามมาคือการเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะพลังงานจากทั่วโลกจะหยุดลง โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าของมนุษย์จะส่งผลทำให้โลกมืดมิด ส่วนพลังงานที่สร้างขึ้นมาจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้จากดวงอาทิตย์ รวมถึงกังหันลม ยังคงใช้งานได้เหมือนเดิม

 

หลังจากไม่กี่วัน

หลังจาก 48 ชั่วโมงผ่านไป แผงโซลาร์เซลล์จากแสงอาทิตย์ และกังหันลมจะหยุดทำงาน สัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านจะอดน้ำและอาหารตาย เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของ และที่สำคัญน้ำก็จะเริ่มท่วมสถานีรถไฟใต้ดิน

 

หลังจากไม่กี่สัปดาห์

อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์จะหาทางหลบหนีออกมา และทำให้มันกลายเป็นนักล่าอีกครั้ง สัตว์ป่าจะต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และจะตายในไม่ช้า ส่วนสุนัขตัวใหญ่จะเริ่มล่าสัตว์ที่ตัวเล็กเพื่อความอยู่รอด และสุดท้ายสัตว์เลี้ยงทุกตัวก็จะกลายเป็นอาหารของสัตว์ป่า

 

หนึ่งเดือนผ่านไป

เมื่อผ่านไปหนึ่งเดือน น้ำจะทำให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เย็นจนระเหย และก่อให้เกิดการระเบิดนิวเคลียร์ ส่วนสัตว์ และสัตว์ป่าจะตายเนื่องจากได้รับผลกระทบจากรังสีของการระเบิด

ระบบน้ำเสียในโรงงานไฟฟ้าก็จะหยุดทำงาน ในขณะที่แม่น้ำ และทะเลสาบจะเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำก็จะตายเพราะระบบนิเวศถูกทำลายไปจนหมดสิ้น ส่วนสารเคมีและก๊าซธรรมชาติจะเริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

 

หนึ่งปีผ่านไป

ในตอนนี้โลกจะเริ่มสร้างตัวเองใหม่จากการขาดการบุกรุกของมนุษย์ แต่โชคดีที่มันจะสามารถย้อนกลับจากนิวเคลียร์ เคมี และภัยก๊าซธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว ส่วนพลาสติกและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่

 

25 ปีต่อมา

25 ปีผ่านไป เมืองหลายๆ เมือง เช่น ลาสเวกัส และดูไบ จะกลับคืนสู่สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และจะถูกปกคลุมด้วยทรายจากทะเลทราย พืชบนโลกจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยจะใช้เวลานานกว่า 2 ทศวรรษจึงจะสามารถกลับสู่สภาพเดิม

อาคาร และถนนก็จะถูกปกคลุมด้วยพืช เมืองแต่ละเมืองจะเต็มไปด้วยสัตว์ป่า ส่วนมลพิษจะเริ่มหายไปเพราะปราศจากมนุษย์

 

300 ปีต่อมา

300 ปีผ่านไป สัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์จะเริ่มกลับมาครองโลกอีกครั้ง จะมีสิงโต ช้าง ออกมาเดินอยู่ในเมืองต่างๆ สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น สะพาน อาหาร รวมถึงหอไอเฟล จะเริ่มยุบตัวลงเนื่องจากถูกกัดกร่อน ส่วนทะเลก็จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเล เพราะไม่มีมนุษย์

 

10,000 ปีต่อมา

เมืองทั้งหมดที่มนุษย์สร้างขึ้นจะพังทลายหายไป ยกเว้นส่วนที่สร้างจากหินจะยังอยู่คงเดิม เช่น ปิรามิด กำแพงเมืองจีน และภูเขารัชมอร์

 

และ 50 ล้านปีต่อมา

หลังจากผ่านไป 50 ล้านปี สิ่งเดียวที่จะยังคงอยู่รอดก็คือ พลาสติก ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น และนี่อาจจะกลายเป็นปริศนาสำหรับมนุษย์ต่างดาวที่จะเดินทางมาเยี่ยมชมโลกของเราในอนาคต ซึ่งกว่าที่พลาสติกเหล่านี้จะย่อยสลายไป มันจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 50 ล้านปีเลยทีเดียว

 

ทั้งหมดนี้สามารถพิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้วว่า เมื่อโลกไม่มีมนุษย์ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ หรือสัตว์ ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้จะไม่ถูกคุกคามอีกต่อไป นั่นก็หมายความว่า ถ้าหากไม่มีมนุษย์เมื่อไหร่ โลกก็จะน่าอยู่ขึ้นมาก

ที่มา : bbc, wittyfeed

Comments

Leave a Reply