ปัญหาความไม่เสมอภาคของประชากรในจีน เริ่มมาจากนโยบาย ‘ลูก 1 คน’ ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนประชากรที่เป็นผู้ชาย มากกว่าผู้หญิงอยู่หลายเท่า และด้วยเหตุนี้เองกลายเป็นผลกระทบให้ต่อมา ครอบครัวของฝ่ายหญิงส่วนใหญ่มักจะเรียกค่าสินสอดที่แพงมากๆ
ซึ่งจากการรายงานของเว็บไซต์ ‘OddityCentral’ ได้ระบุไว้ว่า กรณีค่าสินสอดในประเพณีการแต่งงานของชาวจีนนั้น เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน (คล้ายกับของไทย) ซึ่งในช่วงยุคก่อนอาจนิยมให้สินสอดเป็นสิ่งของมีค่า แต่ทว่าปัจจุบันคงไม่มีอะไรจะมีค่าเท่ากับเงินตราที่จับต้องได้
เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ค่าสินสอดโดยเฉลี่ยของหญิงสาวในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาทเลยทีเดียว!!
ปัจจุบันจีนมีสัดส่วนประชากรคือ ชาย 118 คน ต่อหญิง 100 คน ซึ่งนั่นหมายความว่ามีผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชาย และด้วยเหตุนี้เองทำให้ครอบครัวของฝ่ายหญิงส่วนใหญ่ เรียกค่าสินสอดที่สูงลิบ
ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของนาย Zhang Hu ชายหนุ่มจากหมู่บ้านในชนบท ที่จำเป็นจะต้องไปกู้เงินจำนวนเกือบ 8 แสนบาท เพื่อนำมาเป็นค่าสินสอด และจัดพิธีแต่งงาน
หนุ่ม Zhang ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผู้หญิงที่เคยอยู่ตามหมู่บ้านชนบท ก็มักจะย้ายเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่กันหมด ไม่มีใครอยากแต่งงานกับผู้ชายจนๆ ที่อาศัยอยู่ตามชนบทอีกแล้ว และยิ่งคุณมีฐานะยากจนมากเท่าไหร่ ฝ่ายหญิงก็พร้อมที่จะเรียกค่าสินสอดให้แพงมากเท่านั้นด้วยเช่นกัน”
ปัจจุบันชายที่มีฐานะไม่ได้ร่ำรวยในจีน หลายคนเลือกที่จะแต่งงานกับเจ้าสาวที่มาจากเวียดนาม
และจากการสำรวจยังพบว่า ครอบครัวของฝ่ายหญิงไม่ได้มองแค่ตัวเงินสินสอดเท่านั้น แต่ยังดูภาพรวมทางฐานะของฝ่ายชายทั้งหมด ซึ่งถ้าหากว่าใครที่มีบ้านเป็นของตัวเองในเมืองใหญ่ หรือมีรถยนต์ขับ ก็นับว่าผ่านเกณฑ์ของพ่อตาแม่ยายส่วนใหญ่
Chen Weimin ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรจากมหาวิทยาลัย Nankai ได้กล่าวว่า “ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องจำเป็นไปซะแล้ว สำหรับสังคมการแต่งงานของจีนในปัจจุบัน ที่ฝ่ายชายจะต้องสามารถหาเงินจำนวนมหาศาลมาเป็นหลักค้ำประกันการใช้ชีวิตคู่ เพราะจากสมัยก่อนที่งานแต่งมักจะจัดตามบ้าน ปัจจุบันก็ถูกย้ายมาจัดตามโรงแรมหรูเช่นกัน”
Zhang Mingsuo นักสังคมวิทยาฯ มองว่า เหตุที่ทำให้การเรียกค่าสินสอดสูงขึ้นหลายเท่าตัวขนาดนี้ เป็นเพราะกระแสวัตถุนิยมที่เข้ามามีบทบาทในสังคมจีนมากขึ้นเรื่อยๆ
จากอดีตสินสอดคือการตอบแทนน้ำใจค่าเลี้ยงดูให้ครอบครัวของหญิงสาว ด้วยอุปกรณ์ หรือเครื่องอำนวยความสะดวกให้พวกเขาอยู่ได้สบายมากยิ่งขึ้นในวัยชรา แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ปัจจัยหลายๆด้านขึ้นอยู่กับเงินตรา ซึ่งมันก็ส่งผลให้วัตถุประสงค์ของการเรียกค่าสินสอด แตกต่างไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง
ดูเหมือนว่าค่านิยมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของจีน จะสร้างความลำบากใจให้หนุ่มตี๋เมืองจีนเหลือเกิน ก็ในเมื่อใจมันรักไปแล้ว แต่กลับโดนเรียกสินสอดที่แพงซะจนอาจกลายเป็นหนี้ท่วมหัวได้ จะทำยังไงดีล่ะแบบนี้?
ที่มา: OddityCentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.