เคยไหม!? ที่บางทีจู่ๆ ก็นึกรำคาญขนที่ขึ้นบริเวณที่ลับ จนหลายคนคิดอยากจะถอนรากถอนโคนมันออกไปให้หมดสิ้น แต่ถ้าหากคุณได้อ่านเรื่องราวดังต่อไปนี้ เชื่อว่าจะต้องตัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปทันทีแน่นอน
เพราะล่าสุดผลวิจัยได้เผยออกมาแล้วว่า การโกนขนในที่ลับ ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มากขึ้น
ทางบทความที่ตีพิมพ์จากทางสารสาร Journal of Sexually Transmitted ได้เผยคำสัมภาษณ์ของผู้คนอเมริกาเกี่ยวกับพฤติกรรมการตัดแต่งขนพวกพวกเขาพบว่า ผู้คนร้อยละ 80 มักจะมีการโกนขน ซึ่งจะมีโอกาสเป็นโรค STI มากกว่าผู้ที่ไม่ได้โกนขนเลย
สำหรับ STI เป็นกามโรคที่เกิดจากการติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางปาก ทวารหนัก หรือช่องคลอดกับคนที่ติดเชื้อ ซึ่งมีหลายชนิดของเชื้อโรค โดยมีทั้งหมด 3 ชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ หนองในเทียม, เริมที่อวัยวะเพศ และหนองในแท้
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า พวกเขามักจะทำการโกนขนในที่ลับของตัวเองมากกว่า 11 ครั้งต่อปี บางคนก็โกนเป็นรายวัน-รายสัปดาห์ ซึ่งมันอาจจะมีความเสี่ยงเป็นโรคดังกล่าวมากขึ้นกว่าเดิม
หากสังเกตไปรอบๆ ตัว เราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันผู้ชายมักจะกันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรูปร่าง รักความสะอาด หันมาออกกำลังกาย เพื่อเรียกกระแสกันอยู่ในโลกโซเชียล
จนถูกเรียกเป็นคำนิยามใหม่ว่า “Spornosexual” ขึ้นมา และถึงแม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ความจริงแล้วมันอาจจะมีด้านมืดซ่อนอยู่ก็เป็นได้
จากผลการวิจัยพบว่า ผู้ชายมีการตัดแต่งขนมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งมันอาจจะเชื่อมโยงไปสู่เทรนด์ Spornosexual ที่ผู้ชายสมัยใหม่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมาว่าหากผู้ชายหันมาดูแลตัวเองจะเสี่ยงต่อการเกิด STI หรือไม่!?
ทั้งนี้ จึงมีการหยิบยกทฤษฎีในงานวิจัยออกมาวิเคราะห์ว่า การแต่งกายที่มิดชิดอาจจะก่อให้เกิดภาวะ Microtears ในทางกลับกัน ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย อีกทั้งพวกเขายังได้แนะนำอีกด้วยว่าคนที่ตัดหรือโกนขนนั้น มักจะเป็นพวกที่หมกมุ่นในกามารมย์
มีดโกนหนวดไฟฟ้า ถือเป็นเครื่องมือที่ใช้กันมากที่สุดในกลุ่มผู้ชาย ในขณะที่มีดโกนจะใช้มากที่สุดคือในหมู่ผู้หญิง และใช้กรรไกร ประมาณ 1 ใน 5 ของทั้งผู้หญิง และผู้ชาย
ด้านนักวิจัยได้กล่าวว่า ทางแพทย์ควรแนะนำให้ลดการโกนขนลง หรือถ้าหากมีการโกน อาจจะต้องหยุดการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างนั้น เนื่องจากบางครั้งการโกนอาจจะทำให้เกิดแผลขึ้นได้ ซึ่งถ้าจะมีเพศสัมพันธ์อาจจะรอให้แผลที่บริเวณผิวหายสนิทเสียก่อน
ที่มา : independent
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.